วันเสาร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2561

classical era

            สมัยคลาสสิก เป็นคำที่ใช้กว้างๆ สำหรับสมัยประวัติสษสตร์วัฒนธรรมที่ีศูนย์กลางบู่ในริเวณเมดิเอตเรเนียน ที่ประกอบดวยการปสมปสานระหว่างกรีกโบราณ และโรมัน โบราณ ที่เรียกว่า โลกกรีก โรมัน สมัยคลาสสิกเป็นสมัยที่วรรณคดีกรีกและลาตินมีความรุ่งเรือง
           สมัยคลาสสิคถือกันว่าเริ่มขึ้นเมือมีการบันทึกวรรณกรรมกรีกเป็นครั้งแรกที่เริ่มด้วยมหากาพย์ของโฮเมอร์ราวศตวรรษที่ 8 -7 ก่อนคริต์ศตวรรษ และดำเนินต่อมาจนกระทั่งถึงสมัยการเผพแพร่ของคริสต์ศาสนา และการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันในคริสต์สตวรษที่ 5 จนมาสิ้นสุดลงในปลายสมัยโบราณตอนปลาย ราว ค.ศ. 300 - 600 ผสานต่อไปยัง สมับกลางตอนต้น ยุคสมัยอันยาสนานนีครอบคลุมวัฒนธรรมที่แตกต่างกันในหลายบริเวณของช่วงระยะยเวลนั้น สมัยคลาสสิคอาจจะหมายถึงสมัยอันเป้นสมัยอุดมคติโดยผุ้คนในสมัยต่อมา ตามคำกล่าวของเอคการ์ อัลเลน โพ ที่ว่า ไความรุ่งโรจน์ของกรีก, ความยิ่งใหญ่ของโรมัน
          วัฒนธรรมของกรีซโบราณมีอิทธิพลเป็นอันมากต่อภาษาระบบการปกครอง ระบบการศึกษา ปรัชญา วิทยาศาสตร์ ศิลปะและสถาปัตยกรรมของยุคใหม่ และเปนเชื่อที่นำมาสู่ยุคฟื้นฟุศิลปวิทยา ต่อมาในยุดรปตะวันตก และต่อมาในยุคฟื้นฟุคลาสสิคในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และ 19 /th.wikipedia.org/wiki/สมัยคลาสสิก
            ภาษาละติน เป็นภาษาของชาวโรมันโบราณซึ่งอสศัยอยู่แคว้นละที่อุม (Latīum ปัจจุบันคือเมือง ลาซีโอ้) บริเวณรินชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรอิตาลี โดยมีโรม เป้นศุนยกลางของแคว้น ภาษาละตินที่อยุ่ภายในตำราวิกิฉบับนี้จะเป็นภาษาที่ชาวโรมใช้กันเมื่องสองพันปีที่แล้ว อันเป็นช่วงเวลาทองแห่งงรรณกรรมโรมัน
           /th.wikibooks.org/wiki/ภาษาละติน
การเรียนภาษาละตินเป็นสะพานไปสู่ความสำเร็จของการศึกษาภาษา วรรณกรรม และศิลปะวิทยาการของประเทศในแถบยุโรป ตั้งแต่ครั้งโบราณ วรรณกรรม ศิลปะวิทยาการ การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ คัมภีร์ทางศาสนา ถุกถ่ายทอดผ่านภาษาละติน ในสมัยก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม ภาษาละตินถูกใช้เป็นภาษากลางสำหรับวงการวิทยาศาสตร์ผลงานวิชาการของนักวิทยศาสตร์ เช่น ไอแซค ล้วนตีพิมพ์ด้วยภาษาละติน..
            ผลจากการขุดค้นทางโบราณคดี เมื่อทศวรรษ 1870s และทศวรรษ 1880s ที่เมืองทรอย และเมืองไนซีเน ทำให้ทราบว่าอายธรรมกรีกปรากฎครั้งแรกที่เกาครีต
            อารยธรรมไมนวลของชาวครีตันมีความเจริญสูงสุดระกว่าง 1800-1500 ปี ก่อนคริสตศักราช เรียกว่า "ยุคพระราชวัง " อาชีพสำคัญของชาวครีตันคือ เป็นพ่อค้าจนกลางค้าขายกับชาวอียิปต์ เอเชียไม่เนอ อนาโตเลีย ซีเรียและแอฟริการเหนือ สินค้าสำคัญคือ ข้าวสาลี ไวน์ น้ำมันมะกอก แร่ดีบุก ทองแดง ทองเหลืองและเครื่องปั่นดินเผ่าหลากสี
            ชาวครีตันยกย่องสตรีและนับถือแม่ธรณีเป็นเทพเจ้าสูงสุด เทเจ้าของพวกเขามีลักาณะเป็นมนุษย์มากกว่าและให้คุณมากกว่าโทษ ทำให้ไม่นิยมสร้างวัด ชาวรีตันถุกชาวไม่ซีเนจากแผ่นดินใหญ่รุกรานและยึดครองเมื่อประมาณ 1500 ก่อนคริสตาล ต่อมาชาวไม่ซีเนได้นำอารยธรรมไมนวลของชาวครีตันขึ้นไปเผยแพร่บนผืนแผ่นดินใหญ่ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองไมซีเน กลายเป็นอายธรรมไมซีเน
            ในช่วง 700 ปี ก่อนคริสตกาล กษัตริย์ต้องสูญเสียอำนาจด้านการเมืองและการปกครองแก่ขุนนาง แต่หลังจากนั้นไม่นานนักได้เปลี่ยนการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย
             500 ปีก่อนคริสตกาล เอเธนส์เป็นศูนยกลางของอารยธรรมกรีก ทำให้มีความเจริญทางด้านปรัชญา อักษรศาสตร์ ศิลปะ การแพทย์ ดาราศาสตร์อยางรวดเร็ว
             สงครามเพลโลดฑนีเซียน เกิดจากการที่นครรัฐสปาร์ตาซึ่งเป็นรัฐทหารไม่พอใจต่อความรุ่งเรืองของนครรัฐเอเธนส์ จึงร่วมมือกับรัฐน้อยใหญ่เข้าโจมตีนครรัฐเอเธนส์เพื่อชิงความเป็นผู้นำของนครรัฐต่างๆ ผลที่ตามคือความหายนะของนครรัฐกรีกทั้งหมด
             การมีอำนาจของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์แห่งรัฐมาซิโเนียก่อนนครรัฐกรีกเสื่อม ยุคนี้กรีกสามารถขยายดินแดนครอบคลุทเอเชียไมเนอร์เปอร์เซียอียิปต์และอินเดียในยุคนี้ศิลปะวัฒนธรรมกรีกขึ้นที่เมืองอเลกซานเดียในอาณาจักรอียิปต์ด้วย
             ชาวกรีกนิยมสร้างวิหารนเนินดินหรือภูเขาเล็กๆเรียกว่า อะโครโพลิส วิหารสำคัญคือวิหารพาร์เธนอน สำหรับประดิษฐ์รูปเคารพของเทพีอะเธนา ลักาณะเด่นคือด้านนอกใช้เสาแบบคอริก ด้านในใช้เสาปบบไอโอนิก
           ชาวกรีกเชื่อในเทพเจ้าหลายองค์แต่เทพเจ้ากรีกมีอารมณืความรู้สึกเช่นเดียวกับมนุษย์ พวกเขาเชื่อว่าเทพเจ้าทั้งหมดประทับอยู่บนยอดเขาโอลิมปัส มีเทพเจ้าซุสหรือเซอุส เป็นประมุข
           ชาวอีทรัสกันตั้งชุมชนบริเวณที่ตั้งของชาวกรุงโรมก่อนชาวละติน บริเวณกรุงโรมเป็นที่ตั้งชุมชนของชาวอีทรัสกน เมื่อชาวอีทรัสกันอพยพเข้ามายังคาบสมุทรอินเดียวแล้วได้นำอารยธรรมชาวกรีกเข้ามาด้วย ชาวละตินขับไล่กษัตริย์ชาวอีทรัสกนแล้วปกครองแบบสาธารณรัฐ ขึ้นอำนาจการปกครองสาธารณรัฐโรมันในมือของชนชั้นสูงคือพวกแพทริเซียน
           การเปลี่ยนแปลงการหครองของอาณาจักรโรมันจากระบอบสาธารณรัฐเป็นระบอบกษัตริย์ ระหวางปี 133-130 ก่อนคริสศักราช ชนชั้นปกครองและฝ่ายทหารได้แยงชิงอกนาจกันเอง ปีที่ 31 ก่อนคริสตศักราช ออกเทเวียนแม่ทัพสำคัญหลายชายของจูเลียสซีซาร์มีอำนาจทางทหาร ส่งผลให้เขาสามารถปราบปรามมาร์ก แอนโธนี ทำให้โรมเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบสาธารณรัฐเป็นระบอบจักรวรรดิแทน ออกเทเวียนทรงเป็นจักรพรรดิองค์แรก มีสมญานามว่าออกัสตัส ส่งผลใหมีการขยายดินแดนและอารยธรรมออกไปอย่างกว้างขวาง..http://kunanyazii.blogspot.com/2011/02/3.html
       

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Official vote counting...(3)

                    แม้คะแนนอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา แต่แฮร์ริสก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยืนกรานว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป             รองป...