Mythology (Athena)

           เทพีแห่งสติปัญญาและสงคราม ในคณะเทพแห่งโอลิมเปียนั้นมีเทพีพรหมจารีอยุ่ 3 องค์ คือ เทพีเฮสเทีย  เทพีอาธีน่า และเทพีอาร์ทีมีส องค์แรกเป็นพี่สาวของซุส ส่วนองค์หลังเป็นธิดาย้อนกลับไป
สมัยที่ซุสโค่นบัลลังก์โครนอส เทพบิดา และไอ้ขอให้มีทิสเทพีแห่งปัญญาผู้เป็ฯธิดาของเทพไททันโอเชียนัสกับทีธิสช่วยทำยาสำรอกบังคับให้โครนอสกลืนกินเพื่อคลายบรรดาพี่ ของซุสออกมาจากท้องได้สำเร็จ จากนั้นซุสก็ได้มีทิสเป็นชายาองค์แรก
           แต่เมื่อมีทิสตั้งครรภ์ จอมมารดาไกอาก็พยากรณ์ว่าโอรสของซุสที่เกิดจากมีทิสจะเป็ฯผุ้โค่นลัลังก์ของซุสดุจเดียวกับที่ซุสเคยโค่นบัลลัก์ของโครนอส ซุสกลัวคำพยากรณ์นั้นจึงได้กลืนมิทิสผุ้เป็นชายาลงท้อง และเนื่องจากมีทิสเป็นเทพครองปัญญา เมื่อไปอยู่ในท้องซุสแล้วก็ได้คอยให้คำแนะนำต่างๆ แก่ซุสจากในท้องนั้นเองกาลเวลาผ่านมา วันหนึ่งหนึ่งซุสก็ผวดเศียรอย่างรุนแรง พระองค์จึงเรียกประชุมเทพสภาพเพื่อหาทางรักษาอาการปวดนั้น แต่ไม่มีเทพหรือเทพีองค์ใดรักษาอาการนี้ให้ได้ ซุสจึงตัดสินใจให้เทพองค์หนึ่งข่วยผ่าพระเศียรให้ยังไม่ทันที่รอยแผลยนพระเศียรของจอมเทพที่เกิดจากขวานจามจะแยกออกจากกันดี ก็ปรากฎร่างเทพีองค์หนึ่งผุดออกมาจากรพะเศียรของจอมเทพ เทพีองค์นั้นแต่งกายสวมเกราะแวววาว มือถือหาอและโลห์ ลักษณะพร้อมออกศึก กล่าววาจาประกาศชัยชนะก้องกัมปนาทท่ามกลางความสั่นสะเทือนและเสียงอึกทึกของพสุธาและมหาสมุทร
         
 เทพีที่กำเนินขึ้นองค์นี้คือเทพีอาธีน่า เป็นเทพีแห่งการศึกษและขณะที่เทพีอาธีน่าปรากฎกายขึ้นนันความโฉดเขลาทั้งหลายที่ไม่ปรากฎรูปก็หลีกหนีไป จนหมดสิ้น เทพีอาธีน่าจึงเป้ฯเทพีครองปัญญา
ด้วยอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งปัญญาแห่งอาธีน่านั้นคงจะไ้รับถ่ายทอดมาจากมีทิสผุ้เป็นเทพมารดานั่นเอง
       

 ภายหลงการอุบัติของเทพีอาธีน่าไม่นาน หัวหน้าชนชาวฟินิเชีย ชื่อ ซีตรอบส์ ก็ได้พาบริวารอพยพเข้าไปในดินแดนประเทศกรซ และได้ตั้งบ้านเรือนขึ้นที่แคว้น อัตติกา นครใหม่แห่งนี้มีความสวยงามเป็นอันมาก จนเทพและเพทีท้งหลายต่างอยากจะให้ชื่อของตนได้เป็นนามของนครแห่งนี้เทพและเทพีต่างถกเถียงกันในเทพสภาว่าใครควรจะได้สิทธิ์ในการใชชื่อของตนเองเป็นช่อของนครแห่งนี้ หลังจากถกเถียงกันเนิ่นนา เทพและเทพีต่างก็ยอมสละสิทธิ์ เหลือเพียงอาธีน่าและโพไซดอนเพียง 2 องค์ที่ไ่มยอมกัน

         เพื่อป้องกันปัญหาลุกลามให่ดต มหาเทพซุสจึงให้โพไซดอนและเทพีอาธีน่าเนรมิตส่ิงที่เป้นประโยชน์ให้นครใหม่ หากเทพสภาเห็นว่าสิ่งเนรมิตของใครมีประดยชน์มากกว่าเทพผุ้เนรมิตก็จะเป็นผุ้ได้รับชัยชนะโพไซดอนเนรมิตน้ำทะเลให้พวยพุ่งเป็นน้ำพุเป็นที่น่าอัศจรรย์แก่ขาวเมือง ่ส่วนเทพีอาธีน่าเนรมิตเพียงต้นมะกอกต้นเดียวเหล่าเทพและเทพีต่างโต้เถียงกันว่า ระหว่างน้ำพุกับต้นมะกอก อย่างไหนจะให้ประโยชน์แก่ชาวเมืองมากกว่ากันฝ่ายที่เข้าข้างโพไซดอนก็ว่าน้ำพุนั้นมีประโยชน์กว่าอีกทั้งน่าอัศจรรย์ในความส่วยงามและความแรงของสายร้ำ ไม่เหมือนต้นมะกอกทีไม่เห็นมีค่าอันใดส่วนฝ่ายที่เข้าข้างเทพีอาธีน่าก็แย้งว่าน้ำพุนั้นวยงามก็จริง แต่มีรสเค็ม ไม่อาจสร้างประโยชน์อันใดด้ ส่วนต้นมะกอกนั้นมีประโยชน์ทั้งผลที่กินได้ให้น้ำมัน และกิ่งก้านใช้ทำฟืนในฤดูหนาวผลการตัดสินของเหล่าเทพบุตและเทพธิดาปรากฎว่าเทพบุตรเลือกน้ำพุของโพไซดอน ส่วนเทพธิดาเลือกต้นมะกอกของเทพีอาธีน่า และนื่องจากเทพธิดามีจำนวนมากกว่าเทพบุตรอยุ่ 1องค์ ต้นมะกอกของเทพีอาธีน่าจึงชนะการแข่งขันเทพีอาะีน่าตั้งชื่อเมืองใหม่นัั้นว่า กรุงเอเธนส์ และต้นมะกอกก็กลายเป็นสัญญลักษณ์แห่งกรุงเอเธอนส์นับแต่นั้นมา
         
เทพีอาธีน่านั้นมีฝีมือในเื่องการถักทอย่ิงนัก ยากที่มุนษย์ เทพ หรือเทพีองค์ใดจะเทียบได้ แต่ก็มีดรุณีน้อยนางหนึ่งที่บังอาจคิดทาบรัศมีดรุณีน้อยผุ้มีรูปโฉมสะคราญตา ผุ้นั้นชื่อว่า อารัคนี เธอมีฝีมือในการปั่นด้ายและทอผ้าอันนาพิศวง และด้วยความหลงทนงในฝีมือทอผ้าของตน นางถึงกับบังอาจเปรียบเทีียบว่าแม้เทพีอาธีน่าลงมาแข่งด้วยก็อาจพ่ายแพ้นาง อารัคนี้โอ้อวดฝีมือตนเองอยุ่เนืองๆ จนเทพีอาธีน่ารำคาบ ต้องลงมาจากสวรรค์เพื่อลงโทษนางมนุษย์ผุ้นี้เพื่อไมให้ใครอื่นบังอาจดุถูกวงศ์เทพอีก
           เทพีอาธีน่าจำแลงองค์เป็นหญิงชรา เดินเข้าไปในบ้านของอารัคนี และวนเธอคุย ชั่วประเดี๋ยวเดียวนางอารัคนีก็เร่ิมุยถึงฝีมือทอผ้าของตน และคุยข่มว่าฝีมือนางนั้นเหนือกว่าเทพีอาธีน่า เทพีอธีน่า ในร่างของหญิงชรากล่าวเตือนนางไม่ให้ล่วงเกินเทพเจ้า แต่อารัคนีไม่สนใจ ยังกล่่าวท้าทายให้เทพีอาธีน่าปรากฎกายมาเพื่อแข่งขันกัน
           เทพีอาธีน่าจึลกลับคืนร่างและรับคำท้าของนาง เทพีและนางมนุษย์ผุ้โอหัง ต่างจัดแงตั้งหูก และต่างฝ่ายต่างทอลายผ้าอันวิจิตรขึ้น เทพีอาธีนาทอเป็นลวดลายเนื้อเรื่องตอนที่แข่งกบเทพโพไซดอนเพื่อตั้งชื่อกรุงเอเธนส์ ส่วนอารัคนีทอลายเป็นเรื่องซุสลักาพนางยูโรปา
           ครั้นทอเสณ็จ ต่างฝ่ายต่างเาอลายผ้ามาเที่ยงเคยงกัน สาวเจ้าอารัคนีรุ้ทันทีว่าผ้าทอของนางแพ้หลุดลุ่ย ลายรูปโคโลดแล่นลุยไปในทะเลที่มีคลื่นซัดสาดเป็นฟองมีนางยูโรปาเกาะเขาอยู่ ไม่อาจเที่ยบได้กับลายรูปเหล่าเทพที่เหมือมีชีวิตของเทพีอาธีน่าได้
         
 อารัคนีทั้งเจ็บทั้งอาย จึงเอาเชือกมาผูกคอหมายจะฆ่าตัวตาย เทพีอาธีน่าจึงรีบเปลียนร่างของนางให้กลายเป็นแมงมุมและสาปแช่งนางให้ต้องปั่นและทอใยเรื่อยไปไม่มีเวลาหยุด เป็นการเตือนมนุษย์ผุ้ทรนงไม่ให้หลงยกตนขึ้นเที่ยมเหล่าเทพอีก
           เรื่องราวความรักของเทพีอาธีน่านั้นมีน้อย เนื่องจากรพะนางเป็นเทพีครองความยริสุทธิ์ จะมีก็เพียงครั้งหนึ่งที่เทพการช่างเฮเฟตัส มาสู่ของเทพีอาธีน่าต่อมมหาเทพ ซุส มหาเทพประทานอนุญาต แต่บอกให้เฮเฟตัสไปทาบทามถามความสัมครใจจาเทพีอาธีน่าเอง
          เฮเฟตัสไปพูดขอเทพีอาธีน่าแต่งงานแต่พระนางไม่ยินดีด้วย เทพเฮเฟตัสจึงตรงเข้าไล่ปลุกปล้ำนาง ระหว่างนั้นเฮเฟตัสได้ปล่อยของไม่บริสทุธิ์ให้ตกลงมายังพืนโลก บังเกิดเป็นทารกขึ้นมาคนหนึ่งซึ่งเทพีอาธีน่าก็สงเคราะห์รับทารกนั้นไว้ บรรจุหีบให้งูเฝ้า และส่งมอบให้ธิดาสาวท้าวซีครอบส์ดูแล โดยห้ามเด็ดขามิให้เปิดหีบดู แต่ธดาสาวท้ายซีครอปส์ไม่เชื่อฟัง พยายามจะเปิดหีบ ครั้งเห็นงู เข้าก็ตกใจวิ่งหนีจนตกเขาตาย ทารกนั้นมีชื่อว่า อีริคโธเนียส ซึ่งต่อมาก็ได้้ครองกรุงเอเธนส์ส่วนเทพีอาธีน่านั้นก้ไม่ได้รับการเกี่ยวพาจากเทพองค์ใดอีกเลย
            เทพีอาธีน่านั้นมีบทบาทสำคัญในฐานะเป็ฯที่ปรึกษาให้กับมหาเทพซุส พระนางทรงอยู่เคยงข้าเืพ่อคอยให้คำแนะนำแก่ซุสเทพบิดาอยุ่เกือบตลอดเวลา เมื่อรั้งที่ซุสตกใจเตลิดหนีอสูรร้ายไทฟอนไปนั้น ก็ได้เทพีอาธีน่าพูดเตือนสติจนซุสกลับมาต่อสู้กับไทฟอนจนได้รับชัยชนะ ส่วนในดกมนุษย์นั้น เทพีอาธีน่าก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือวีรบุรุษหลายคน คือ ช่วยเฮอร์คิวลิสทำงาน 121 อย่างตามคำสั่งของเทพีเฮร่า ช่วยเพอร์ซีอุสสังหารนางอสูรเมดูซ่า ช่วยโอดีสซีอุสส ให้เดินทางกลับบ้านจากยุทธภูมิทรอยอย่างปลอดภัย ช่วยเตเลมาคัสบุตรชายของโอดีซีอุสให้ตามหาพ่อจนสำเร็จ และในสงครามทรอยนั้นเทพีอาธีน่าก็เป็นต้นเหตุหนึง่ของมหาสงคราม เื่องจากเป็นหนึ่งในสามทเพีที่แย่งชิงตำแหน่งเทพีที่งามที่สุดแห่งสรวงสวรรค์และเมื่อเกิดสงครามกรุงทรอย เทพีอธีน่าก็เข้าร่วมรบอยุ่กับฝ่ายกองทัพกรีก..https://sites.google.com/site/chattarikajomfoo/xarythrrm-krik-boran/6-theph-pkrnam-krik

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)