Divine Comedy ( Dante Alighieri)

         
ดีวีนากอมเมเดีย หรือไตรภูมิดันเต เป็นวรรณกรรมอุมานิทัศน์ที่ ตัดเต อาลีกีเอรี เขียนขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1308 จนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1321 ถือเป็นกวีนิพนธ์สำคัญของวรรณกรรมอิตาลีและเป็นหนึ่งในงานช้ินสำคัญที่สุดขิ้นหนึ่งของวรรณกรรมของโลก กวีนิพนธ์นี้เป็นจิตนิยายและอุปมานิทัศน์ของคริสเตียนสะท้อนให้เห็นถึงการวิวัฒนาการของปรัชญาสมัยกลางในเรื่องที่เกี่ยวกับโรมันคาทอลิกของตะวันตก นอกจากนั้นก็ยังเป็นหนังสือ ที่มีบทบาทต่้อสำเนียงทัสคัน ตามที่เชียนเป็นภาษาอิตาลีมาตรฐาน
         "ดวีนากอมเมเดีย" แบ่งออกเป็นสามตอน "นรก" "แดนชำระ" และ "สวรรค์" กวีนิพนธ์เขียนในรูปของบุคคลที่หนึ่งและเป็นเรื่องที่บรรยายการเดินทางของดานเตไปยังภูมิสามภูมิของผุ้ที่เสียชีวิตไปแล้ว ที่เริ่มการเดินทางตั้งแต่วันศุกร์ ศักดิ์สิทธิ์ ไปจนถึงวันพุธหลังจากวันอีสเตอร์ของปี ค.ศ. 1300 โดยมีกวีโรมัน เวอร์จิล เป็นผู้นำใน "นรก" และ "แดนชำระ" และเบียทริเช พอร์ตินาริ เป็นผุ้นำใน "สวรรค์" เบียทริเชเป็นสตรีในอุดมคติที่ดันเตพบเมือยังเป็นเด็กและชืนชมต่อมาแบบ "ความรักในราชสำนัก" ที่พบในงานสมัยแรกของดันเตใน "ชีวิตใหม่" ที่เขียนในปี ค.ศ. 1295
       
ชื่อเดิมของหนังสือก็เป็นเพียงชื่อสั้นๆ ว่า " Commedia" แต่ต่อมา โจวันนี บอกกัชโชก็ํมาเพิ่ม "Divina" ข้างหน้าชื่อ ฉบับแรกที่พิมพ์ที่มีคำว่า "Divine" อยู่หน้าชื่อ เป็นฉบับที่นักมานุษยวิทยาฟื้นฟูศิลปวิทยาของเวนิส โลโตวีโก ดอลเช พิพม์ในปี ค.ศ. 1555
           ดูรันเต เตกลี อาลีกีเอรี หรือ ดันเต อาลีกีเอรี หรือเรียกสั้นๆ ว่าดันเต ดันเต อาลีกีเอรีเป็นรัฐบุรุษ กวี และนักภาษาศาสตร์ คนสำคัญของฟลอเรนซืใคริสต์ศตวรรษที่ 13 และ 14 ในยุคกลาง งานชิ้นที่สำคัญที่สุดคือ "ดีวีนากอมเมเดีย" ที่เดิมชื่อ "คอมเมเดีย" แต่ต่อมาเรียกว่า "ดิวินา" โดยโจวันนี
           ดันเตได้รับการขนานนามในอิตาลีว่า“il Sommo Poeta”  หรือ "มหากวี" และได้ชือว่าเป็น "บิดาแห่งภาษาอิตาลี" ดานเต เปตราก และโจวันนี บอกกัชโช รู้จักรวมกันว่า "สามมุกุฎ https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2

           ข้อมูลเพิ่มเติม http://chotirosk.blogspot.com/2014/09/hell-and-heavens-in-dantes-la-divina.html
              ดันเต อลิเกียรี กำเนิดในปี ค.ศ. 1265 ที่เมืองฟลอเรนซ์ ในครอบครัวขุนนางต่ำศักด์ เมื่อมีอายุได้ยี่สิบปี ดังเตก็ทำการสมรสกับเกมมา โดนาติ และมีบุตกับบางด้วยกันทั้งส้ินสามคน ดังเตเข้าเรียนที่โบโลญญ่ามหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในช่วงวัยหนุ่มดังเตคบค้าสาคมกับคีตกวีหรือศิลปินที่มีชื่อเสียงและอิทธิพล ณ เวลานั้นหลายคน ดังเตหลงรักเบีทริชสุถาำสตรีผุ้สูงศักดิ์คนหนึ่งกระทั่งเขาเชียนกลอนยาวและประพันธ์ วิต้า เนาว่า เพื่อุดทิศแด่เบียทริชหลังจากเธอเสียชีวิตลงใในปี ค.ศ. 1290
             
ส่วนผลงานของเขาที่มีชื่อว่า ดิวิน่า คอมมีเดีย นั้นประพันะ์ขึ้นเมื่อต้นศตวรรษที่ 14 คือหลังจากที่เขาได้ลี้ภัยทางการเมืองและไปศึกษาที่ปารีส กระทั่งใช้ชีวิตในบั้นปลายขเงอขาในสภานกักกันรเวทนาที่วึ่งดังเตได้อุอทิสเวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตเพื่อเขียนผลงาน ดิวินา คอมเมเดีย จนเสร็จสมบูรณ์ ก่อนหน้าที่เขาจะสิ้นลมเพียงไม่นาน
         
ดิวินา คอมเมเดีย แบ่งออกเป็น 3 ภาคด้วยกัน โลกหลังความตายของดังเต่นั้นประกอบไปด้วยสามโลกคือ นรก แดนชำระ และสรวงสวรรค์และในแต่ละภพภูมินั้นก็คือแต่ละภาคของ ดิวินา คอมมเเดีย นั้นเอง ดังเตไม่ได้ใช้อรรถกถาธรรมดาๆ เพื่อพรรณนาภาพพจน์โลกหลังความตายของคริสเตียน หากเขาใช้กลวิธีทางการประพันธ์ที่แนบเนียนกว่าด้วยการนำเสนอเรื่องราวทั้งหมดในฐานะที่เขาได้พบเห้นโลกทั้งสามมาแล้ว ดดยที่มีเวอจิลมหากวีชาวโรมันเป็นมัคคุเทศนำชม
         
ประตู่สู่นรกตั้งอยุ่ใต้นครเยรูซาเลม โครงสร้างของแดนนรกสามารถแบ่งออกเป็นสามระดับกว้างๆ คือนรกขชั้นบน นรกชั้นล่างและใจกลางโลกอันเป็นที่พำนักของซาตาน นรกขั้นบนและชั้นล่างถูกกั้นไว้ด้วยกำแพงแห่งดิส ในแต่ละชั้นนั้นามารถแบ่งออกเป็นส่วนย่อยๆ ได้อีกโดยจำแนกจากประเภทของบาป ซึ่งใน่วนย่อยนี้ดังเตเรียกว่า ไซเคิล หรือ "วงจร" ดังนั้นยิ่งลำดับของ "วงจร" มากเท่าไร วงจรดังกล่าวก็ย่ิงเข้าใกล้ศุนย์กลางของโลก (จะมองว่าสัญญานของนรกในทัศนะของดังเตเป็นรูปทรงกรวยที่ปลายแหลมดิ่งสู่ใจกลางโลกก็คงไม่ผิดแ่ประการใด) ซึ่งวงจรทั้งหมดสามรถแบ่งออกเป็น อีก 9 วงจร
           ข้อมูลเพิ่มเติม - http://www.thaiwriter.org/?p=468
                                   - https://www.thairath.co.th/content/371223

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)