Defender of the world organization

           องค์กรโลกบาล เป็นเรื่องที่่นักวิชาการพูดกันมานานแล้ว ส่่วนมากจะพูดถึงการที่องค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆมีบทบาทในการกำหนดวิถีความเป็นไปของประเทศต่าง ๆในโลกและมักจะมองไปที่องค์การสหประชาชาติ และองค์กรในกำกับของสหประชาชาติ ธนาคารโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย กลุ่มนี้ได้รับการอุดหนุนจากประเทศตะวันตกและเอเชียตะวันออกเช่นญี่ปุ่น เป็นต้น
           ในปัจจุบันมีองค์กรใหม่ๆ ของฝ่ายทางเลือกทีไม่ต้องการอยู่ภายใต้อิทธิพลของตะวันตก เช่นจีนก็ก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนดครงสร้างเพื้นฐานแห่งเอเชียขึ้นและพยายามนำเงินหยวนเข้าเป้นส่วนหนึ่งของกองทุนการเงินระหว่างประเทศจนสำเร็จ รวมถึงความคิดเรื่องพันธบัตรเอเชียหรือการแลกเปลี่ยนเงินโดยไม่อิงเงินสกุลดออล่าร์
       
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ตัวอย่างเช่น ฟรีเมสันและ อิลูมินาติ ซึ่งถูกกล่าวอ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญๆ  ของโลกใบนี้ ซึ่งเป็นเพียงข่าวลือหรือเป็นทฤษฎีสมคบคิดเท่่านั้น
           หลังสงครามดลกครั้งที่ ๒ ประเทศต่างๆ พายามที่จะใช้องค์กรโลกบาล โดยเบื้องต้นคือสันนิบาตชาติและสหประชาชาติเพื่อเป็นเวทีในการแก้ไขความขัอแย้งโดยหวังว่าโลกจะมีมาตรฐานความศิวิไลซืประมาณเดียวกัน เพื่อมิให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงอย่างที่ผ่านมา
            ยุคสมัยปัจจุบัน ทั้งสหประชาชติ สมาชิกองค์กรสังกัดสหประชาชติ หรือ องค์กรฝ่ายทางเลือกของจีนเอง ต่างก้ฒีการขับเคลื่อนที่เป็นยุทธศาสรตร จะเห็นได้ว่า โดยอิทธิพลขององค์โลกบาลนี้ จะทำให้ผุ้นำประเทศ ต่างๆ แม้ประเทศใหญ่ๆ เมื่อจะตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ต้องทำไปอย่างสอดคล้องกับระบบโลก เช่น ประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ต้องตัดสินใจให้สอดคล้องกับระบบกลไกขององค์กรโลกบาลนี้  ก็จะถูกมาตราการต่างๆ ขององค์โลกบาลนี้ตลอดจนกระการส่งกองกำลังเขาไปยังประเทศนัั้น เช่น เกาหลีเหนือเป็นต้น
           ทิศทางขององค์กรโลกบาลเหล่านี้ หากพิจารณเหดุผลที่เกิดขึนแล้ว พบว่ามีเป้าหมายในการสร้างสมดุลในโลกนี้ไม่ว่าะเรื่องมารตรฐานสากลในเรื่องต่างๆ มสิทธิมนุษยชน เป็นต้น ไปจนถึงการสร้างสมดุลของประชากร
           องค์กรเหล่านี้อาจจะยังไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศต่าง โดยตรง แต่เมื่อไหร่ที่มีกิจกรรมที่จะมีผลกระทบต่อสังคมโลก เช่นกรณีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การรุกรานหรือการกระทพกระทั่งในเรื่องเขตแดนที่อาจลุกลามเป็นเหตุใหญ่ องค์กรเหล่านี้จะเข้ามาเกี่ยวข้องเท่าที่จำเป็น ซึ่งก็บรรลุผลตามเป้าหมายบ้าง ไม่บรรลุผลบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทำได้ยากที่องค์กรอย่างสหประชาชาติต้องประสานประโยชน์กับหลายฝ่ายและต้องเคารพอธิไตยของแต่ละประเทศ
        องค์กรโลกบาล หรือการปกครองโลกโดยองค์กรระดับใหญ่อย่างนี้ คงยังไม่่เกิดขึ้นง่ายๆ แต่จะมีความพยายามกันอยุ่ตลอดเวลาตั้งแต่การรวมตัวเป็นสหภาพยุโรป ซึ่งในเวลานี้อาจมีแค่ไม่ชาติในโลกที่พอจะมีเทคโนโลยีและเงินทุนพอที่จะร่วมมือกันเรื่องต่างๆ เป็นกลุ่มขนาดใหญ่ได้ ซึ่งได้แก่ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป รัสเซีย จีน
     
การล่มสลายของอาณาจักรใหญ่ๆ ต่างๆ ในอดีตเกิดจากการแข่งขันแย่งชิงอำนาจในกลุ่มเกินขอบเขต รวมอำนาจอยู่ทีคนคนเดียว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้อาณาจักรต่างๆ ในอดีตล่มสลายอยางมากมาย เศรษฐกิจก็เป็นเรืองสำคัญหากอาณาจักรใดไม่สามารถดูแลตนเองในเรื่องเศรษฐกิจได้แล้วก็จะต้องล้มลงในที่สุด การปกครองภายในก็เป็นเรื่องจำเป็น เป็นสิ่งที่สำคัญ องค์กรที่มีระบบการปกครอง การกระจายอำนาจให้กลุ่มย่อยๆ ต่างๆ ในระดับประเทศและภายในประเทศ เพื่อป้องกันการรวมอำนาจ และเพื่อความรวดเร็ว คล่องตัว มีประสิทธิภาพ การบริหารประเทศ กลุ่ม หรือองค์การก็จะเป็นไปอย่างได้ผล หากกล่าวโดยรวม
       องค์กรโลกบาลจะมีจริงหรือไม่ มีเป้าหมายอยางไรทั้งที่ลับและที่แจ้ง อย่างน้อยสหประชาชาติและการรวมกลุ่มอาเซียน และข้อตกลงทางการต้าต่างๆ ก็มีพื้นฐานให้ติดตามกันได้ สิ่งเหล่านี้ลำพังประเทศเดียวไม่อาจแข็งขืนได้ มีการวมกลุ่มกันจึงจะเข้มแข็ง และสุดท้ายองค์การโลกบาลจะเป็นผู้กำหนดทิศทางของอนาคตโลก...
         บางส่วนจาก องค์กรโลกบาล โดย พลโท ดร. พงศกร รอดชมภู : มติชนสุดสัปดาห์ พุทที่ 19 เมษkยน พ.ศ. 2560

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)