Mythology (Artemis)

             
              อาเทมิส
              จันทราเทพีและเทพีแห่งการล่าสัตว์ ในคณะเทพโอลิมเปียนมีเทพีพรหมจารีอยุ่ 3 องค์ ทรงนามตามลำดับว่า เฮสเทีย อาธีนา และ อาร์เทมีส องค์แรกเป็นพี่สาวยองจอมเทพ ส่วน 2 องค์หลังเป็นธิดาสำหรับเทพีอาร์เทมีสนั้นเป็นเทพีแห่งสัตว์ทั้งปวง สัตว์ที่เทพีอาร์เทมีสโรดปรานเป็นพิเศษคือกวางและเป็ฯเทพธดาจัสทราเทพีอาร์เทมีเป็นเทพธิดาแฝดผู้พี่ของ เทพอพอลโล ซ฿่งเป็นสุริยเทพ ทั้งสองเป็นธิดาและโอรสของมาหเทพซุสกับนางลีโตนางลีโตน้ันเมื่อตั้งครรภ์ก็ประสบเคราะห์ร้าย
            เนื่องจากซุสไปเข้าพิธีอภิเษกกับเทพีเฮร่า แล้วพระนางเฮร่าก็เล่นบทเทพีขึ้หึงไล่นางลีโตต้องหนีซมซานจากแผ่นดินล่องลงไปในทะเลโชคดีที่่โพไซดอนเนรมิตเกาะให้อยุ่จึงรอดชีวิตมาได้ตอบคลอดอาร์เทมีสนั้นก็ยากเย็นนักหนาจนลีโตแทบเอาชีวิตไม่รอดอีกครั้งเหตุนี้ทำให้เทพีอาร์เทมีสรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวของคนเป็นแม่ พระนางจึงเกลียดการวิวาร และขออนุญาตเทพบิดาไม่ขอมีคู่ตตอง ขอเป็นเทพีรักษาพรหมจรรย์ตลอดไป
         
นอกนั้นยังขอนางอัปสรโอเชียนัส 60 นาง กับนางอัปสรเื่นอีก 20 นาง ที่ไม่ยินดีในการวิวาห์ด้วยเช่นกัมาเป็นบริวาร ทั้งหมด พากันท่องเที่ยวอยู่ตามราวป่าอย่างสำราฐใจทุกวันยามพระอาทิตย์อัสดงเทพีอาร์เทมีสก็จะเร่ิมทรงราชรถเทียมม้าขาวปลอดลากดวงจันทราข้ามห้วงนภาผ่านดวงดาวดารดาษยามค่ำคือน ระหว่างที่ท่องเที่ยวไปนั้นเทพีอาร์เทมีสก็จะคอยสอดส่งลงมายังโลก พิภพ ดุแลผืนป่า สัตว์ป่า และพรานไพร
            คืนหนึ่ง ขณะที่เทพีอาร์เทมีสลอยล่องอยู่เหนือแคว้นแดนคอเรีย พระนางก็เห็นหนุ่มเลี้ยแกะรูปงาม ขื่อ เอนดิเมียน นอนหลับออาแสงจันทร์อยุ่ริมเขา ความงามของเจ้าหนุ่มเมื่อต้องแสงจนร์เป็นที่น่าพิสมทัยแก่เทพีอาร์เทมีสย่ิงนักพระนางอดใจไม่ได้ถึงกับหยุดราชรถและลงมาจุมพิตหนุ่มน้อยเบาๆ ก่อนจะลอยเลื่อนกลับไป
           เอนดิเมียนกำลังเคล้ิมจิตอยู่ในภวังค์ ค่อยๆ ลือเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ เห็นเพียงภาพคลับคล้ายคลับคลาของเทพธิดาที่ไม่อาจปักใจได้ว่าเป็นเพียงความฝันหรือความจริง แต่เอนดิ
เมียนก็ังใจกับความฝันนั้นเขาเที่ยวค้นหาเทพธิดาในฝันไปตามที่ต่างๆ ทั้งเขาสูง ทุ่งกว้าง และทะเลลึกเรื่องราวล่วงรู้ไปถึง ซุสมหาเทพ พระองค์ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องอื้อฉาวแก่เทพีพรหมจารีผุ้นี้ พระองค์จึงยื่นคำขาดแก่ เอนดีเมียนว่าจะยอมตายด้วยวิธีหนึ่งตามแต่จะพึงประสงค์ หรือจะยอมนอนหลับโดยไม่ตื่นตบลอดกาลในถำ้บนยอดเขาแลตมัส เอนดิเมียนเลือกเอาปรการหลัง ซึ่ง ณ ที่นั้น เอนดิเมียนยังคงนอนหลับไหลอยู่ตลอดกาล โดยมีเทพีอาร์เทมีสแวะเวียนมาเยี่ยมเยื่อนเขาอยุ่ทุกค่ำคือน
            อาร์เทมีสบางคร้งก็ทรงเป็นเทพีที่ดุร้าย อารมณืโกรธของพระนางแม้เพียงเรื่องน้อยนิด พระนางก็อาจงโทษผุ้ที่ทำให้นางโกรธถึงแก่ชีวิตลงได้ ดังเช่นครั้งหนึ่ง เทพีอาร์เทมีสได้ออกป่าล่าสัตว์พร้อมนางอปสรบริวาร เมื่อมาถึงสระน้ำที่ใสเย็นแห่งหนึ่ง เทพีอาร์เทมีสพร้อมบริวารก็เปลื้องภูษาทรง และลงสรงสนานในสระน้ำใสนั้นด้วยความเพลิดเพลินสำราญใจยิ่งนักขณะนั้น มีนายพรานคนหนึ่งชื่ว่า แอดเตียน กำลังออกป่า เที่ยวล่าสัตว์หาเนื้อตั้งแต่รุ่งอรุณ ตกถงเวลาบ่ายแอดเตียนก็เหน็ดเหนื่อยโรยกำลังและกระหายน้ำ เขาจึงมุ่งหน้ามายังสระน้ำแห่งเดียวกันนันเมื่อเข้าไปใกล้สระน้ำ แอคเดียนก็แว่วเสยงสตรรีดังมาแต่ไกล เขาจึงแอบบ่องเข้าไปดูจึงพบภาพเทพีอาร์เทมีกำลังสรงน้ำกับนางอัปสรบริวารอยุ่อย่างสำราฐใจฝ่าย เาร์เทมีส ได้ยินเสียงผิดปกติจึงเหลียวมาดู พระนางก็สบลตาเข้ากับแอคเตียนนายพรานหนุ่ม ด้วยความโกรธ เทพีอาร์เทมีสจึงกอบน้ำด้วยอุ้งหัตถ์ สาดเข้าไปที่ใบหน้าของแอคเตียนทันที เมื่อหยดน้ำกระทหน้า แอคเตียนก็ค่อยๆ กลายร่างไปเป็นกวาง ฝ่ายผุงสุนัขล่าสัตว์ของเขา บัดนี้จำแอคเตียนผุ้เป็นนายไม่ได้แล้ว ต่างก็กระโจนเข้รุมกัดจนแอคเตียนในร่างของกวางตายอยู่ตรงนั้นนั่นเอง
       

อีกรายหนึ่งที่ดดนโทษทัณฑ์ของเทพีอาร์เทมีส คือ อัคมีทัีส ซึงลืมถวายเครื่องบูชาในวันแต่งงาน เทพีอาร์ทีมิสจึงลงโทษเขาโดยการบันดาลให้หน้องหอมีแต่งูพิษหรือรายของ กษัตริย์ เอนีอัส แห่งดเมืองคาลีดอน พระองค์พระองค์ลืมถวายพืชผลที่เก็เบกี่ยวจาไรนาให้แก่เทพีอาร์เทมีส ตามธรรมเนียม เทพีอาร์เทมีสจึงยันดลให้โคป่าเข้าบุกดินแดนของพระองค์ และสังหารครอบครัวของพระองเสียวอดวาย            แม้จะเป็นเทพีครองพรหมจาี แต่เทพีอาร์เทมีสก็เคยมีความรักกับมนุษย์คนหนึ่งจนเรื่องราวใหญ่ไต
ชายกนุ่มคนนั้นเป็นนายพรานร่างกำยำ ชื่อว่า โอไรออน เชื่อกันว่าเขาเป็นบุตรของโพไซดอนเจ้าสมุทรเนื่องจากเขาสามารถเดินลุยลงไปในทะเลลึกได้
          วันหนึ่งขณะที่กำลังล่าสัตว์อยุ่กลางป่า โอไรออนก็พบกับบางอัปสร 7 นาง เรียกว่ พลียาดีส เขาเกิดหลงรักนางอัปสรทั้งเจ็ด จึงได้ติดตามนางอัปสรเหล่านั้นไป ขณะที่นางอัปสรก็หนีจอนอ่นกำลัง ในท่ี่สุดนางอัปสรทั้งเจ็ดจึงเอ่ยปากขอให้เทพีอาร์เทมีสช่วย เทพีอาร์ทีมิสจึงช่วยแปลงร่างนางอัปสรทั้งเจ็ดให้กลายเป็นนกพิราบโดยบินขึ้ไปยนฟ้า และกลายเป็นหมู่ดาว พลียาดีส เล่งประกายระยิบระยับอยู่กลางฟ้านั่นเอง ฝ่ายโอไรออนต่อมา ก็หลงรักา มิดรปี ธิาดท้าว อิโนเปี่ยน เจ้าเกาะ ไคออส     
             โอไรออนอุตส่าห์ล่าสัตว์ป่าเอาไปกำนัลแด่ธิดาสาวและพระบิดา แต่ท้าวอีโนเปียนก็ผลัดผ่อนเรื่อยมา โอไรออนจึงคิดจะฉุนางอโรปีด้วยกำลัง แต่ท่ายอีโนเปี่ยนรู้ัทันจึงจักการมอมเหล้า โอไรออนจนตาบอด แล้วเอาไปท้ิงริมทะเล โอไรออนเมื่อได้สติขึ้นมาพร้อมดวงตามที่บอดสนิท ไม่รู้จะไปแห่งหนใดได้ แต่อาศัยความรุ้ของนายพรานฟังเสียงของ ค้อนของยักษ์ไซคลอปส์ในเกาะ เลมนอส จึงดั้นด้นไปจนถึงถ้ำตีเหล็กของยักษ์ฝ่ายยักษ์ตนเหนึ่งมีความสงสารจึงอาสาพาโอไรออนดุ่มเดินไปทางทิศตะวันออก ช่วยให้ได้พบกับทเพอพอลโล และอาศัยแสงสว่างรรักษาดวงตาให้กลับคือเป็นปกติ
             เมื่อด้วยอาการหายเป็นปกติแล้ว โอไรออนก็กลับไปล่าสัว์อีก ตอนเนี้เองเทพี อาร์เทมีส ก็มาพบเขาเข้า และผุกสมัตรรักใคร่กันเทพอพอบโลเห็นท่าไม่ ชอบมาพากล และเกรงว่าเทพีอาร์เทมีสจะกลับัตย์เรืองการครองพรหมจรรย์ พระองค์จึงคิดอุบายทำให้มิตรภาพนั้นยุติลงอย่างเด็ดขาด
              วันหนึ่งขณะที่โอไรออน เดินบุยน้ำอยู่กลางทะเลไกลลิบ เทพอพอลโลได้เรียกเทพีอาร์เทมีสมาลองฝีมือยิงธนูกัน โดยให้เทพีอาร์เทมีสอลยิงอะไรที่ลอยอยุ่เหนือน้ำทะเลไกลๆ นั้นดุว่าจะถูกหรือไม่
              ฝ่ายเทพีอาร์เทมีสไม่ได้เฉลี่ยวใจว่าที่เห็นดำๆ นั้นแท้จริงคือหัวของโอไรออน พระนางจึงยิงธนูออกไป ลูกธนูถูกเข้าหมาย อย่างแม่นยำครั้งคลื่นซัดพาร่างโอไรออนเข้มาถึงฝั่งเทพีอาร์เทมีส จึงรู้ว่าได้ทำอะไรลงไป พระนางเศร้าโศกเสียใจมาก จึงแปลงโอไรออให้กลายเป็นกลุ่มดาว พร้อมด้วยสายรัดเอว ดาบ และกระบองคู่มือ อยู่ในท้องฟ้าตอจากกลุ่มดาวพลียาดีส และแปลงสุนัขของเขาที่ชื่อซิริอัสให้กลายเป้นดาววิริอัน อยู่ท้ายกลุ่มดาวโอไรออน ด้วยตั้งแต่บันนั้นมานอกจากตนเองจะไม่ยอมวิวาห์แล้ว เทพีอาร์เทมีสยังบับคับไม่ให้นางอัปสรบริวารของตนวิวาหืด้วย แต่นางอัปสรบริวารนางหนึ่งชื่อคัลลิสโต ก็ถุกมหาเทพซุส มาหลงรักและจึงใช่อุบายและได้สมสู่กับนางจนได้ เทพีอาร์เทมีสรู้เรื่องเข้าก็พิโรธหนัก และลงโทษนางโดยการเนรเทศนางออกไป เมื่อคิลลิสดตประสูตโอรสแล้วก็ถูกเคราะห์กรรมซ้ำถูกพระนางเฮร่าสาปให้กลายเป็นหมี  https://sites.google.com/site/chattarikajomfoo/xarythrrm-krik-boran/6-theph-pkrnam-krik

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)