Mythology (Apollō)

             อพอลโล  สริยเทพแลเพทแห่งการดนตรี อพอลโล เป็นโอรสของนางลีโต กับซุสเมื่อเทพีเฮร่า
ยินยอมอภิเษกกับซูสแล้ว ข่าวนางลีโต ตั้งครรภ์กับซูสก็มาเข้าหู เทพีเฮร่าจึงแสดงบทเทพีขี้หึงขับไล่ลีโตลงจากสวรรค์ และส่งงู ไพธอน ตามไล่ล่าลีโตหนีหัวซุกหัวซุนจนสุดแผ่นดิน สุดท้ายก้ตัดสินใจหนีลงทะเลเพื่อให้พ้นจากงูร้าย บังเอิญเทพสมุทรโพไซดอนเห็นเข้าก็สงสาร จงเนรมิตเกาะให้นางเป็นอที่อยุ่อาศัย ช่อ เกาะดีลอส ณ ที่นั้น ลีโตได้ให้กำเนิดโอรสและธิดาแฝด คือ อพอลโล เทพสุริยัน กับอาร์ทีมิส เทพธิดาจันทรา โดอพอลโลนั้นเกิดก่อนอาร์ทีมีส 9 วัน และหลงจากเทพอพอลโลประสูติได้ 4 วัน เขาก็สามารถฆ่างูร้ายไพธอนลงได้ ทำให้ลีโต้ ปลอดภัยจากความหึุงหวง ของพระนางเฮร่า ตั้งแต่บันนั้น และอพอลโกก็ได้ชื่อว่า ไพธูศ ซึ่งแปลว่า ผุ้ประหารไพธอน ด้วยอีชื่อหนึ่ง
           อพอลโลเป็นเทพที่มีรูปงามย่ิง เป็นนักดนตรีผุ้ขับกล่อมเทพทั้งปวงบนเขาโอิมปัสด้วยพิณ เป็นเทพขมังธนู ที่สามารถยิงธนูได้ทังแม่นและไกล และเป็นทเพแห่งสัจธรรม
           ชาวกรีกนับถือเทพอพอลโลมาก จึงมีวิหารที่บุชาเทพอพอลโลจำนวนมาก แต่ที่มีชื่อเสียงทีุ่ด คือ วิหารเดลฟี
            ครั้งหนึ่ง เฮอร์คิวลิส ได้ไปของคำพยากรณ์ที่วิหารเดลฟี แต่คำทำนายที่ได้รับไม่ถูกใจ เฮอร์คิวลิสจึงล้มโต๊ะพิธีและฉวยเอากระถางธุปได้วย เทพอพอลโลติดตามไปท้าเฮอร์คิวลิสเล่นมวยปล้ำเพื่อชิงกระถางธูปคืน แต่ปล้ำกันอยู่นานก็ไม่เอาจรู้แพ้ชนะกันได้ จนซูสต้องสด็จลงมาไกล่เกลี่ยให้เฮอร์คิวลิสคือกระถางธูปเรื่องจึงยุติ
         
  เทพอพลอโลแม้จะเป็นเทพแห่งสัจะรรม แต่บางครั้งก็มีนิสัยดุร้ยดังเช่นที่เห็นจากกรณีของนางไนโอบี เหตุเกิดเพราะนางลีโต มารดาของเทพอพอลโลกับเทพีอาร์ทีมิส ชอบคุยโ้อวดในความงามและความเก่งกาจของเทพบุตรเทพธิดาทั้งสองอยุ่เสมอ แต่ถูกนางไนโอบีมเหสีเจ้ากรุงะีบส์หัวเราะเยาะว่านางลีโตนั้นมีโอรสและธิดาเพียงแค่ 2 องค์ ไม่อาจสุ้นางได้ที่มีโอรสและธิดาที่ทั้งรูปงามแลฉลาดรวมถึง 14 องค์ นางไนโอลีกล่าววาจาสบประมาทนางลีโตเป็นอันมาก ซ้ำยังหามชาวเมืองทำการบูชาเทพอพลโลและเทวีอาร์ทีมิส รวมทั้งสั้งให้ทำลายรูปเคารพเทพและเทพีคุ่นี้จากแท่นที่บูชาด้วย
          นางลีโตโกรธแค้นมาที่ถุหยามถึงเพียงนี้ นางจึงเรียกาเทพอพอลโลและเทพีอาร์ทีมิสมาแล้สังให้ทังสองไปฆ่าโอรสและธิดาของนางไนโอบีให้สิ้งซาก อพอโละอาร์ทีมิสนั้นโกรธแค้นอยู่แล้วที่รุปเคารพของตนถูกทำลาย ทั้งสองจึงออกตามฆ่าโอรสและธิดาของนางไนโอบีจนหมดสิ้น เมื่อโอรสและธิดา้ินชีวิตลงหมด เจ้ากรุงะีบส์ก็เลยพลอยฆ่าตัวตายตามไปด้วย นางไนโอบีสุญสิ้นทั้งสามีและโอรสธิดา ความโศกเศร้ารันทดประดังขึ้นมาจนร่างนางแข็งชาไปทั้งร่างในที่สุดนางไนโอบีก็กลายเป็นหินร้องไห้อยุ่บนเขาไซปิลัสจนถึงทุกวันนี้
         อพอลโลนั้นเป็นเทพบุตรรูปงาน และเจ้าชู้ เร่องราวความรักของพรองค์มีทั้งสมหวังและผิดหวัง มีทั้งที่พระองค์ไปหลงรักเขาข้างเดียว และที่ฝ่าายหญิงมาหลงรักพระองค์อยู่ข้างเดียวก็มี
          ชายาองค์หนึ่งของอพอลโล คือ โครอนนิส ธิดาผุ้เลอโฉมของเจ้าเคว้นเธสสะลี แต่นางรอนนิสนั้นใจไม่ซื่อ เทพอพอลโลก็ควรู้ดีจึงได้ให้นกดุเหว่าขาวตัวหนึ่งเฝ้านางไว้ ด้วยความที่ใจไม่ซื้อ ระหว่างที่ตั้งครรภ์ นางโครอนนิสก็ยังอุตสาห์แอบไปลักลอยคบชู็กับชายอื่น ดุเหว่าขาวจึงนำข่าวไปบอกให้อพอลโลทรงทราบ ทเพอพอลโลยันดาลโทสะจึงบันดาบลให้ขนของดุเหว่าขาวกลาายเป็นสีดำสนิทตั้งแต่นั้น และพระองค์ก็ฆ่าโครอนนิสตาย
           ระหว่างที่เฝาศพโครอนนิส เทพเฮอร์มีสก็มาล้วงเอาทารกในครรภ์ของนางโครอนนิสออกมา และนำไปฝากให้ ไครอน ผุ้เป็นเซนทอร์ เลี้ยงดู โอรสองค์นี้ของเทพอพอลโล ชื่อว่า เอสคิวเลปีอัส เป็นเด็กฉลาด เป็นที่รักของอาจาย์เซนอร์เป็นอย่างยิ่ง อาจารย์จึงถ่ายทอดวิชาการต่างๆ โดยเฉพาะวิชการด้า
นการรักษาโรคให้จนหมดสิ้น เอสคิวเลปิอันมีความสามารถในการรักษรโรคได้เก่งกาจกว่าผุ้เป็นอาจารย์มากสามารถรักาาโรร้ายต่างๆ ให้หายขาดได้ชื่อเสียงของเอสคิวเลปิอัสจึงเลื่อลือไปไกล แต่ครั้งหนึ่งเอสคิวเลปิอัสได้รักษาคนตายให้ฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาได้ ซึ่งนับเป็ฯการทายทและบั่นทอนพลังอำนาขของเทพแห่งสรวงสวรรค์ ซุสจึงตัดสินใจประหารเอสคิวเลปิอัสด้วยอสนีบาตประจำปงค์
          เทพอพอลโลโกรธมากที่โอรสของตนต้องมาเสียชีวิตแต่ก็ไม่อาจบันดาลโทสะกับซูส ผุ้เป็นเทพบิดาได้ จึงหันไปไล่เบี้ยกับยักษ์ไซคลอปส์ผุ้สร้างอาวุธสายฟ้านี้ขึ้นมา
          อพอลโลน้าวธนูเงินหมายสังหารยักษณ์ไซคลอปส์ให้สมแค้น จึงถุกซูสลงโทษโดยการเนรเทศอพอลโลให้ลงมาอยุ่ทำงานรับใช้มนุษย์บนโลกเป็นเวลา 1 ปี
         เทพอพอลโลลงมาเป็นคนเลี้ยงแาะอยู่ริมฝั่งน้ำแอมฝริซัสให้กับท้ายแอดมีทัส แห่งกรุงเธอสสะลี ซึ่งท้าวแอดมีทัส ก็ได้มาฟังเทพอพอลโลดีพิณที่แสนไพเราะเพราดพร้ิงอยู่บ่อยๆ ในที่สุดจึงรุ้ว่าชายเลี้ยงแกะคนนี้แท้จริงคือ เทพอพอลโล
         ท้าวแอดมีทัสนั้นหลงรักานางแอลเซสทิส ธิดาท้ายพีเลียสแห่งเมืองไอโอลคัน แต่ท้าวพี่เลี่ยสตั้งตั้งเงื่อนไขว่าท้าวแอดมีทัสต้องทรงรถศึกเทียมด้วยสิงห์กับหมูป่าไปรับนางแอลเซสทิสได้เท่านั้น พระองค์จคึงจะยกธิดาให้ ซึ่งงานนี้เทพอพอลโล ได้ให้ความช่วยเหลือ ท้าวแอดมีทันสจึงได้นางแอลเซสทิสมาเป็นมเหสีสมใจ
          อยู่มาไม่นาน ท้าวแอดมีทัสเกิดล้มป่วยลงและทำท่าว่าใกล้จะสิ้นชีวิต เพทอพอลโลจึงขอร้องไม่ให้เทวีครองชะตากรรมตัดด้ายสายชีวิตของท้าวแอดมีทัส ซึ่งเทวีครองชะตากรรมก็ยินยอม โยมีข้อแม้วาต้องมีใครยอมสละชีวิตแทนท้าวแอดมิสทัส ในยามดีทุกคนก็บอกว่ายินดีสละชีวิตให้ได้ แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ กลับไม่มีใครยอมสละชีวิตให้ท้าวแอดมีทัสสักคน ยกเว้นนางแอเชศทิสผุ้เป็นมเหสี
          ท้าวแอดมีทัสจึงหายประชวร ส่วนนางแอลเซสทิส กลับล้มป่วยร่อแร่ใกล้ตายโชคดีที่เฮร์คิวลิสผุ้เป็นสหายของท้ายแอดมัีทัสเินทางผ่านมาและรับรู้เรื่องราวที่เข้า เฮอาร์คิวลิสจึงเฝ้าคอยขชัดขวางไม่ให้แธทานอสมัจจุราชมารับวิญญาณของนางแอลเซสทิสไปได้ ซึ่งก็ทำได้สำเร็จ นางแอลเซสทิสจึงหายป่วย
         
 เมื่อท้าวแอมีทัส ได้รับความสุขดีแล้ว เทพอพอลโลก็ได้เกินทางไปกรงทรอย และไปช่วยเทพโพไซดอนสร้างกำแพงกรุงทรอย โดยการดีดพิณ ใช้เสียงเพลงช่วยเคลื่อนย้รายก้อนหินมาเรียงกันเป็นกำแพงเมือง งานนี้จึงสำเร็จไปได้อย่างรวดเร็ว
          ครบกำหนด 1 ปี เทพอพอลโลก็กลับไปอยู่บนโอลิมปัสตามเดิม ชายาอีกองค์หนึ่งของเทพอพอลโลเป็นนางอัปสร ชื่อว่า ไคลมินี ทั้งสองมีโอรสด้วยกันหนึ่งองค์ ชื่อว่า เฟอิทอน เฟอิทอนนั้นอยู่กับมารดาโดยไม่เคยเห็นหน้าบิดาเลย รู้เพียงว่าบิดาของตนคือเทพอพอลโล เขาจึงถุกเพื่อหัวเราะเยาะอยู่เสมอ หาว่าแอบอ้างตนเป็นลูกของสุริยเทพ
           วันหนึ่ง  เผอิทอนรบเร้าให้มารดาพาไปหาบิดาเพื่อพิสูจน์ว่าตนเป็นโอรสเทพอพลอลโลจริง นางไคลมินีจึงบอกทางให้เผอิทอนเดินทางไปทิสตะวันออกจนกว่าจะถึงวังที่ประับของอพอลโล ณที่นั้นจะได้พบกบบิดาสมประสงค์
          เฟอิทอน ดั้นด้นเดินทางจนมาถึงวังของเทพอพอลโล ซึ่งเทพอพอลโลก็จำได้ว่าเป็นโอรสของตน หลังจากรับรุ้ความคับแค้นของ เฟอิทอนแล้ว เทพอพอลโลก็สาบานกับแม่น้ำสติกซ์ว่า จะช่วย
          เฟอิทอนจึงขอเปนผุ้ชับราชรถลากพระอาทิย์แทนบิดาในวันรุงข้น เพื่อให้มนุษย์และเทพทั้งหลายได้ประจักษ์ว่าเขาเป็นโอรสแห่งสรุยเทพอย่างแท้จริง
           อพอลโลบ่ายเบี่ยงขอให้เฟอิทอนของอย่างอื่น เรพาะการชับราชรถลากพระอาทิย์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เรพาะม้าเที่ยมรถทั้ง 4 นั้นพยศมาก เกรงว่าจะโกลหลไปทั้งสวรรค์และโลกมนุษย์ แต่เฟอิทอนยืนกรานของเป็นผุ้ขัยราชรถตามความตั้งใจเดิม ด้วยเกรงกลัวต่อแม่น้ำสติกซ์ที่ได้ลั่นวาจาสาบานไปแล้ว เทพอพอลโลจำต้องยินยอมดัวยความไม่สบายใจ เทพอพอลโลกำชับให้เฟอิทอนขับรชรถด้วยความระมัดระวังเรื่องการห้ามออกนอกเส้นทาง การรักษาความเร็ว และการรักษาระดับความสุงของราชรถไว้ ซึ่งเฟอิทอนก็ทำตามได้ในช่วงต้น แต่เมื่อขับไปสักพัก เขาก็เริ่มประมาท ลืมคำสั่งสอนของเทพบิดาเสียสิ้น
          เฟอิทอนเร่ิมขับราชรถออกนอกเ้นทาง ทำให้หมู่ดาวและเดือนพากันตกใจ และเมื่อขับราชรถมาใกล้โลกมนุษย์ ต้นไม่ใบหน้าก็เหี่ยวเฉาไปตามๆ กันด้วยความร้อนจากดวงสุริยา เฟอิทอนขับรถลงใกล้โลกมนุษย์มาขึ้นทำให้แผ่นน้ำแห้งเหือด ตันไม่แห้งตาย แม้ผิวกายมนุษย์ก้๔ุแผดเผาจนกลายเป็นสีดำ และดำจนมาถึงทุกวันนี้ ดินแดนที่เฟอิทอนขับราชรถลงมาใกล้ครั้งนี้คือแผ่นดนอาฟริกานั่นเอง
            เผอินทอนตกใจที่เห็นความวุ่นวายเกิดขึ้นกับโลก เขาจึงลงแส้ม้าชักราชรถให้ถอยห่างออกไป ม้าก็เผ่นโผนโจนทะยานเหออกห่างโลกเสียลิบลับ ทำให้พืชพันธ์ธัญญาหารที่เหลือรอดกลับเหี่ยวเฉาตายลงอีกเพราะความหนาวจัดฉับพลัน ทั้งแผ่นดินแผ่นน้ำตอนนั้นก็มีน้ำแข็งปกคลุมทั้งไปมด เสียงผุ้คนร้อยระงมดังขึ้นทุกที จนในที่สุดก็ปลุกซุส ให้ตืนจากบรรทมเล็งทิพยเนตรสืบสวนหาสาเหตุ ครั้งไ้ความว่าเหตุกิดจาเฟอิทอนบังอาจขับราชรถสุริยเทพจนปั่นป่วนวุ่นวายเช่นนั้นก็พิโรธ คว้าอสนีบาตฟาดไปที่เฟอิทอน จนตกจากรชรถเสียชีวิต ตกลงสุ่แม่น้ำ อีริดานัส ในพริบตา เฟอิทอนมีพี่สาวร่วมอุทร 3 คน เพมือเฟอิทอนถึงแก่ความย นางทั้ง 3 ก็ไปร้ำไห้ที่ริมฝั่งแม่น้ำจนเทพทั้งปวงสงสารเลยแปลงนางเป็นต้นอำพันหลังน้ำตาออกมาเป็นอำพันตั้งแต่บันนั้น ฝ่ายเพื่อนคนหนึ่งของเฟอิทอน ชื่อ ซิกนัส ก็ลงงมหาศพ ดำผุดดำว่ายในแม่น้ำจนกลายเป็นต้นกระกูลหงส์เล่นน้ำสืบเชื่อสายพงศ์พันธุ์มาจนตราบเท่าทุกวันนี้
           
 สวนเรื่องราวความรักที่ไม่สมหวังของเทพอพอลโล เช่นเรื่องของพรองค์กับนางแดฟนี นางแดฟนีเป็นนางอัปสรรูปงาน ธดาของ พีนูส เทพประจำแมน้ำ เทพอพอลโลได้พบบางโดยบังเอิญกลางป่า พระองค์หมายจะได้นางเป็นชายา จึงเดินเข้าไปหา แต่นางแดฟนีกลับวงิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ฝ่ายเทพอพอลโลก็วิ่งตามพลาง ส่งเสียงร้องเรียกไปพลาง แต่นางแดฟนี ก็ไม่หยุดฟังยังคงวิ่งหนีต่อไป จางแดฟนีวิ่งหนีจนอ่อนกำลังและตระหนักว่านางคงหสีไม่พ้อน นางจึงว่ิงไปที่ริมแม่น้ำและร้องขอให้เทพบิดาพีลูสช่วย พีลูสจึงแปลงร่างของธิดาสาวให้กลายเปนต้นชัยพฤกษ์อยุ่ริมฝั่งน้ำนั่นเอง
          ส่วนเรื่องราวความรักที่มีสาวมาหลงรัก คือเรื่องของนาง ไคลที ซึ่งเป็นนางอัปสรประจำน่านน้ำ ธดาของโอเชียนัสกับธีทิส ไคลทีหลงไหลใฝ่ฝันเทพอพลอโลอย่ามาก นางจะคอยฝ้าดุเทพอพอลโลขับราชรถลากด้วยอาทิตย์อยุ่ทึกวัดดยที่เทพอพอลโลหาได้มีใจใหแก่นาง ไคลที่แหงนหน้ามองดุเทพอพอลโลนับตั้งแต่ยามเช้าพระอาทิตย์ขึ้น และเฝ้ามองตามไม่ให้คลาดสายตาจวบจนพระอาทิตย์ตก ดดยหวังวาสักวันสุริยเทพจะหลือบมาเห็นนางบ้าง ปวงเทพทั้งหลายสงสรในควมรักของนาง จึงได้บันดาลให้ให้กลายร่างเป็นต้นทานตะวัน
           เทพอพอลโลนั้นมีฝีมือทางการตดนตรี ดดยเฉพาะการบรรเลงพิณสวรรค์ พระองค์จึงมีหน้าที่ดีดพิขับกล่อมความสำราญกับเลห่าเทพโอลิมเปียนส์ โดยมีบริวารที่ช่วยบรรเลงเพลงสวรรค์อีก 9 องค์ เรียกวา คณะศิลปวิทยาเทวี หรือมิวส์    มิวทั้งเก้า เป็นธิดาของมหาเทพซูสกับนางเนเมซิส..https://sites.google.com/site/chattarikajomfoo/xarythrrm-krik-boran/6-theph-pkrnam-krik
       
         

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)