Academy Football 2

           " เดอ ทูคอมส์" คือชื่ออะคามีเดียของอาแจ็กซ์ โดยแปลว่า "เดอะ ฟิวเจอร์ " ในภาษาอังกษ หรือ
อนาคตนั้นเอง สถานที่ประกอบด้วยสนาม 8 สนาม 2 ตึก มีท้้งห้องเรียน,ยิม, ร้านกาแฟ, ร้านอาหาร และออฟฟิต สำหรับบรรดาโค้ชและนักวิทยาศาสตร์การกีฬา เสนอ่ห์ที่ดึงดูดบรรดาแข็งแยาชนทั่วโลกมาฝึกฝนที่นี้เพราะปรัชญา "โททอล ฟุตบอล" ซึ่งเป็นรูปแบบการเล่นที่มีมชาติฮอลแลนด์ใช้ในทศวรษที่ ุ0 การผ่านบอลและการเปลี่ยนเกมรับเป็นรุกที่รวมเร็ว ผุ้เล่นเคลื่อนที่ในสนามอย่างอิสระ
         แต่จากกระแสโลแาภิวัฒน์ ซึ่งทำให้นักฟุตบอลร่ำรวยขึ้นอย่างมหาศาลจากการไปเล่นลีกใหญ่ในยุโรป อังกฤษ เยอมรัน และสเปน ทำให้จุดมุ่งหมายของสภาบัน นั้นเปลี่ยนแปลงไป ไม่มช่กาปั้นนักเตะขึ้มาเพื่อเข้าสู่ทีมอย่างเดียว แต่เป็นการผลิตนักฟุตบอลเพื่อส่งออกไปขายทอดตลาดในลีกชั้นนำของยุโรปด้วย เปรียบดัง "โรงงานผลิตนักฟุตบอล"
         
คัมภีร์ลูกหนัง แนวทางการฝึกของอาแจ็กซืนั้น ปะกอบได้ด้วย 8 ด้าน มีการฝึการจัดระเบียบร่างกาย, การเตะ การผ่านบอล การทุ่ม การเคลื่อนที่เพื่อเอชนะคู่แข่ง การโหม่ง การจบสกอร์ การยืน ตำแหน่ง การยืนต่ำแหน่งแบบมีบอล และการเล่นโต็ะเล็ก ทำให้การคัดเลื่อกเยาชนเข้ามาฝึกฝนจึงต้อง่งแมวมองไปติตามเด็กหลายเดือนหรือเป็นปี ก่อนจะส่งจดหมายเชิญไปที่ผุ้ปกครอง เมื่อได้เข้ามาใในอคาเดมีแล้ว จะมีการแข่งขันภายในเพื่อคัดเกรด หรือปรับตก ไม่ต่างกับการเรียนหนังสือ ดังน้นเมื่อนานวัผ่านไปนักเตะจะเติโตแข็งกแกร่งขึุ้นทั้งร่างกายและจิตใจ
          โดยแนวคิดระบบการฝึกฟุตบอของอาแจกซ์ ทั้งหมาดนี้ถูกเรียกว่า "TIPS Model" ประกอบด้วย ที่ เทคนิค ไอ คือความเข้าถึงอย่างถ่องแท้ พี คือ บุคลิกภาพ และ เอส คือ สปีด ซึ่ง พีกับ เอส นั้นมีติดตัวมาแต่กำเนิด แต่ ไอกับ เอส นั้นสามารถฝึกนสร้างขึ้นได้ จากความสำเร็จได้มีการขยายสาขาไปทั้งโลก และยัเคยเปิดสาขาที่สหรัฐอเมริกา แต่ไม่ประสบความสำเร็จจึงต้องยกเลิกไป ปัจจุบันมีอคาเดมี กว่า 15 แห่งกระจายในกรีซและไซปรัส
          อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีระบบพัฒนาเยาชนที่เป็นเลิสแต่ผลงานในสนามของอาแจ๊กซ์มักขาดความต่อเนือง สาเหตุมาจากสตาร์ของทีมทีเร่ิมฉายแสงมักถูกยักษ์ใหญ่ในยุโรปดึงตัวไปเล่นหลายคจต้องผ่าตัดทีมบ่อย อีกทั้งแนวคิดพัฒนาเยาชนของอาแจกซ์ หรือแม้กระทั้งประเทศเนเธอแลนด์ ก็กำลัสั่นคลอนเพราะผลงานทีมอัศวินสีส้มกำลังย่ำแย่ ตั้งแต่ไม่ได้ร่วมเล่นยูโร 2016 จนตอนนี้ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกก็สภานการณ์ไม่สู้ดีนัก
            ระบบเยาชนอาแจ๊กซ์มัก๔ุกยกให้เป็นภาพสะท้อนของฟุตบอลประเทศเนเธอแลนด์ซึ่งกำลังถูกท้าทายอย่างหนัก หลายประเทศ นำ "ทีไอพีเอส โมเดล" ไปใช้และพัฒนาขึ้นอีกระับ ซึ่งอาจเป็นช่วงเวลาที่อาแจกซ์ต้องเร่งคิดคัมภีร์เทวดาฉบับใหม่ขึ้นมาแทน โททอล ฟตุบอล...http://www.komchadluek.net/news/sport/275086
           ่จากเรื่องอเคมีฝั่งยุโรปไปแล้ว เรามาตอกันที่อคาเดมีไทยกันดีกว่า
           ยุคที่ 3 คือยุคอคาเดมีฟุตบอล อย่างแท้จริง โดยมี "ธำรงไทย" และ "ยูคอมแข้งทอง" เป็นแหล่งบุกเบิกนการทำฟุตบอลเยาวชนจาภาคเอกชน
            ธำรงไทยสโมน ถือเป็นเอกชนแห่งแรกที่เปิดสอนบอลอย่างเป็รูปแบบชัดเจน แก่เยาชน ตั้งแต่อายุ 10 ปี เป็นต้นไป โดยี อนุักษณ์ ศรีเกิด และอาจพล ระดมเล็ก เป็นสองแข้งดังที่เกิจากที่นี้
             ความสำเร็จจากการพัฒนาเยาวชน บวกกับแนวคิดในการดึงนัเกตะต่างชาติ ภายในการสนับสนุนของสปอนเซอร์อย่าง บ.บุญรอดเบเวอรี ส่งผลให้ธำรงไทยสโสร ได้เป็น 1 ใน 18 สโมสรก่อตั้ง ไทยลีก ครั้งที่ 1 ทว่านักเตะส่วนใหญ่ล้วนเป็นเยาชนอายุ 16-18 เท่านั้น จึงไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งได้ และตกชั้น ก่อนจะประสบปัญาหรืเ่องเงินทุนใเวลาต่อมา
         
  "ยูคอนแข้งทอง"โดยสองพี่น้องนักเตะ สุทิน-สุรัก ไชยกิตติ..เน้าการเปิดสอนฟุตบอลเด็กๆ อายุไม่เกิด 15 ปี ตามสามฟุตบอลต่าง โดยเน้นคอนเซปท์ฝึกสอนจากประสบการณ์จริง ยูคอมแข้งทอง มีรุปแบบที่แตกต่างกับ ธำรงไทยสโมสร รงที่เป็นแหล่งฝึกสอนนักฟุตบอลอ่างเดียวแห่งแรก ที่ไม่ได้สร้างนักฟุตบอลเพื่อเตรียมดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ หรือป้อนสโมสร ซึ่งต่อมาก็ซบเซาตามยุคสมัย
           ขณะที่ทุกอย่างเดินไปข้าหน้า ทั้งไทยลีกที่ค่อยๆ เติบโตขึ้น มีอคาเดมีฟุตบอลจากเอกชน รมถึงการสนับสนุนจากภาคัฐ ในการแขงขันฟุตบอลระดับนักเรียน แต่ทว่า สองสถานศึกาาเอกชนอย่าง อัสสัมชัญศรีราชา และอัสสัมชัญธนบุรี กลับเป็นผุ้พลิกเกมส์และเปลี่ยนเทรนด์แห่งยุค
         
"เจ้าสั่วน้อย" อัสสัมชัญธนบุรี ก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจลูกหนังขาสั้นในช่วงเวลาไม่นานนัก โดยมี ผุ้ให้การสนับสนุนทั้งจากโรงเรียนและและภายนอกโรงเรียนและการจับมือกบภาคเอชน ทำให้สถาบันแห่งนี้ กลายเป็นสถาบันขาสั้นในฝันของเด็กรุ่นใหม่ จากช้างเผือกรุ่นแรกๆ และได้โค้ชมือฉมังที่ย้ายมากจากโรงเรียนกีฬากรุงเทพฯ ผลิตนักเตะก่อนที่จะจับมือกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในการส่งป้อนดาวรุ่งและเปรียบเสมือน อคาเดมีของกิเลนผยองไปแล้ว
       
เฉกเช่นอัสสัมชันศรีราชา เร่ิมต้นส้างความย่ิงใหญ่ภายใต้การสนับสนุนของ ตระกูลคุณปลื้ม มีการเปิดคัดหาช้างเผือกและฝึกสอนอยางเป็นระบบ รุปแบเียวกัน โดยเร่ิมจากการส่ง นักเตุไปยังโรงเรียนเล็กๆ อาทิ โรงเรียนบ้านหัวกุญแจฯ เพื่อปรับสภาพและเตรียมความพร้อม ก่อนส่งมาเรียนต่อทั้งที่ อัสสัมชัญศรีราชา หรือถ่ายไปให้ จุฬาภรณ์ราชวิทยาลย
         ชลบุรี คือผุ้เปลี่ยนเกม จากปรัชญาและแนวทางที่สร้าางเด็กขึ้นมา นถึงวันหนึ่งเมื่อทุกอย่างมันลงล็อก เด็กที่สร้างมา สีห้ารุ่น กบับมาสโมสร แล้วพีคขึ้นมาพร้อมกัน ทำให้ผลงานทีมดีตามไปด้วย เกิกระแสท้องถ่ินนิยมมา แผนบอลเต็มสนาม รวมถงีการบริหารจัดการอย่างเป็นสโมสรอาชีพแ้จริง" ที่สำคัญนักฟุตบอลพวกนี้ ถูกปลูกฝังให้มีความรัก ภาคภูมิใจในคามเป็น ชลบุรีก่อนแข่งหลายๆ คนมอแค่ว่า ชลบุรี เป็นแค่ม้ามืด แต่หลังจากชนบุรีเป็นแชมป์ ทุกทมต้องมองชบลุรีใหม่ และ้เกิดแรงบันดาลใจแก่ทีมท้องถ่ินว่า ถึงจะเป็นทีมต่างจังหวัดก็ป็นแชมป์ไทยลีกได้....https://www.fourfourtwo.com/th/features/cchaakdiitcchnthuengpacchcchuban-lamdab-5-yukhwiwathnaakaarkhaaedmiifutblemuuengaithy?page=0%2C2
           

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)