far right populism

              27 ก.ค 2554 ชาตินิยมขวาผยองยุโรปเตรียมล้างบาง
              "กลุ่มขวาจัดในยุโรป" กลายเป็นประเด็นครึกโครมไปทั่วโลกภายหลังเหตุการณ์สังหารโหดในนอร์เวย์
              กลุ่มขวาจัดในยุโรป กลายเป็นประเด็นครึกโครมภายหลัง แอนเดอร์ส เบห์ริก เบรวิก หนุม่นอร์เวย์ มื่อสังหาร  76 ศพ ให้การต่อศาบกรุงออสโล เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา ว่าแม้การกระทำของตนจะโหมเหี้ยม แต่ก็นับว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพ่อปลดแอกยุโรปจากอิทธิพลและอำนาจของศาสนาอิสลาม อีกทั้งบันทึกออนไลน์มากว่า 1,5000 หน้าของแบวิก ยังสะท้อนใหเห็นอย่งเด่นชัดว่า หนุ่มนอร์เวย์วัย 32 ปี รายนี้ฝักใฝ่กลุ่มขวาจัดหัวรุนแรง ลุ่มขวาจัดหัวรุนแรงมกมีความเชื่อว่าคนผิวขาวนั้นเหนือกว่าชาติพันธุ์ุอืนๆ อีกทั้งพวกนี้ยังรังเกียจชาวต่างชาติและแรงงานอพยพ โดยมักวิพากวิจารณ์นโยบายของรัฐบาลฝ่ายซ้ายที่เกื้อหนุนชาวต่างชาิทีเข้ามาอาศัยในประเทศ โดยมองว่าแรงงานอพยพยนั้นเข้ามแย่งชิงพืนที่ในประเทศของตน
            ความจริงแล้วกลุ่มขวาจัดมีประวต้ิการเคลื่อนหวอยู่ในประเทศยุดรปมาเป็นเวลานานแล้ว ดยเฉาพะในแถบยุโรปเหนือ ทางด้านผุ้เชี่ยวชาญมองว่านับวันกลุ่มนี้ยิ่งจะมีอิทธิพลมากขึ้น เนื่องจากในระยะหลังได้พยายามวาดภาพของมุสลิม่าเป็นศัตรูที่แท้จริงของคนขาว จนชาวยุดรปเร่ิมตื่นตระหนกและหันนมาสนับสนุนแนวทางของกลุ่มนี้มากขึ้น
           นอเวย์ มีพรรคการเมืองเอียงขวาอย่าง "พรคก้าวหน้า" วึงได้ต่อต้านนโยบายเปิดประเทศรับผู้อพยพของพรรคแรงงานมาตลอด แต่หลายฝ่ายก็มอง่าการที่พรรคก้าวหน้าไม่มีที่นั่งในสภานั้น ทำให้การต่อต้านแรงงานผุ้อพยพในนอร์เวย์ไม่เข้มข้นเหมือนกับในต่างประเทศ
         
เดนมาร์ก และ สวีเดน นั้น พรรคฝ่ายขวากับประสบความสำเร็จได้ที่นั่งในสภา และนับวันก็ยิ่งมีความเข้มแข็งมากขึ้น โดยในเดนมาร์กมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มขวาจัดอย่างชัดเจน ซึ่งนำโยพรรคเดนนิชพีเพิลปาร์ตี้ พรรคนี้เคยชูนโยบายต่อต้านแรงงานต่างด้าวและเรียกร้องให้มีกายกเลิกมาตการช่วยเหลือประเทศออยพัฒนา อีทังยังเคยเกิดเหตุอื้อฉาวในเดนมาร์กมาแล้วใปี 2005 เมื่อหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งได้ลงภาพล้อเลียนท่านบีมูอัมหมัด ศาสดาของศาสนาอิสลาม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงอคติที่มีต่อชาวมุสลิม สวิเดนเองก็ขึ้นชื่อว่า มีกลุ่มขวาจัดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุดรปเหนือ โดยเมื่อปี 2553 พรรคสวีเดน เดโมแครต พรรคขวาจัดของสวีเดน สามารถสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการไ้รบเลือกเข้าสภาคร้้งแรก ดดยบางพรรคนั้นได้รณรงค์หาเสียงต่อต้านการอพยพเข้าเมืองของชาวมุสลิมมาโดยตลาด และได้กล่าวโทษชาวมุสลิมว่าเป้นสาเหตุของปัญหาต่างๆ ในประเทศ นอกจากนี้ เบรวิกเองยังเคยเป็นสมาชิกกลุ่มเว็บบอร์ด "นีโอนาซี" ของวสีเดน
             เนเธอร์แลนด์ ก็มีกลุ่มขวาจัดในรูปของพรรคการเมืองที่ชื่อว่ "พรรคเสรีภาพ" โดยผุ้เชียวชษญมาองว่ากลุ่มนี้นับวันจะยิ่งมีบทยาททางการเมืองมากขึ้นเพราะได้ที่นั่งในสภาถึง 24 ที่นั่งจากการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2533 อีกทั้งเกิร์ต ไวลเอต์ส ผู้ก่อตั้งพรรคและสมาชิกรัฐสภาพ ยังได้เคยเปรียบท่านนบีมูอัมหมัด ศาสดาของศาสนาอิสลาม ว่าเป็นซาตาม เบรวิกเองก็ได้ยกย่องพรรคเสรีภาพว่าเป็นพรรคอนุรักษณนิยมเพียงแห่งเดียวในยุโรปที่ยังคงยึดมั่นต่ออุดมการณืของกลุ่มทขวาจัก แต่ล่าสุทางพรรคก็ได้อออกมาประณามการกระทำของเบรวิก
            เยอมนี ก็มีกลุ่มอนุรักษนิยมหัวรุนแรงอย่างกลุ่ม "นีโอนาซี" โดยสมาชิกกลุ่มนี้เป็นกลุมคนผิวชาวซึ่งมีความเชื่อว่าคนผิวขาวนั้นเป้นใหญ่เหนือเป่าพันธุือื่นอีกทั้งยงยังมีปะวัติเคยทำร้ายชาวต่างชาติับไม่ถ้วน
            สำหรับประเทศ อังกฤษนั้น นับว่าเป้นประเทศที่กลุ่มใง่ขวามีอิทะิพลอย่างยิ่ง เนื่องจากพรครคอนุรักษนิยมนั้นสมารถชนะการเลือกตั้งเือปี 26634 และได้จัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคเสรีประชาธิปไตย อีกทั้งอังกฤษยังมีพรรคชาตินิยมอังกฤษ ว฿่งเคยออกกฎเหล็กอนุญาตให้เฉพาะคนขาวเท่านั้นเข้ามาเป้นสามาชิกำลุ่ม ทางพรรคนั้นยืนกรานในนโยบายปดกั้นประเทศจากแรงงานต่างด้าวง และเมื่อปี 2552 ก็ประสบความสำเร็จสามาถคว้าที่นังใสภายุโรปได้เป็นครั้งแรก...https://www.posttoday.com/world/101824
            27 ก.ค. 2554 ไบรวิก ในการต่อศาลเมื่อวันจันทร์ (25 ก.ค. 2554) ว่า เขาปรารถนาให้การตายของประชาชน 76 คน ส่งสัญญาณไปถึงรัฐบาลนอร์เวย์ให้หยุดทำลายวัฒนธรรมนอร์ติก และหยุดปล่อยชาวมุสลิมจำนวนมากเข้าประเทศ"
           "การี เฮเลน" หัวหน้าศูนย์ต่อต้านการเหยี่ยดผวในกรุงออสโล ระบุว่า "ไบรวิก ก่ออาชญากรรมและความรุนแรงสุดโต่งครั้งี้อย่างโดดเดี่ยว แต่ก็น่าสนใจที่ว่า เขาสามาถพัฒนาแนวคิดแบบนี้ขึ้นมาได้ใบริบททางสังคมและการเมืองปัจจุบัน และการกราดยิงประชาชนก็ไม่ใชเ่รือ่งบังเอิญ เพราะเขาไม่เคยแปลกแยกจากสังคม" พรรค นอร์วิเจียน โปรเกรส ปาร์ตี้ ซึ่งยึดแนวทางประชานิยมเอียงขวา "มีพรสวรรค์ในการปลุกปั่นใหเ้กิดการวิพากษืวิจารณ์อย่างกว้างขวาง" โดยเฉพาะการตั้งป้อมรังเกียจชาวมุสลิมและชาวต่างชาติเฮเลน ระบุ
             ก่อนทศวรรษที่ 1970 แทบไม่มีชสชาติอื่อาศัยอยู่ในกลุ่มประเทศนอร์ติก นอกจากชาวยุโรป แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมา ดินแดนเหล่านี้กลับกลาเป็นบ้านของชาวต่างชาติที่หนีความขัดแย้งมากจากบ้าเกิด เช่น ยูโกสลาเวีย, โซมาเลีย และเคอร์ติสถาน ตัวอย่างที่เห็นชัดได้แก่ สวีเอน ซึ่งเป็นรับผู้ี้ภัยชาวอิรักมากกว่าทุกประเทศในยุโรปรวมกัน หลังจากทีสหรัฐฯ บุกอีรักในปี 2003 ขณะที่ในกรุงออสโลของนอร์เวย์ ชื่อที่ได้รับความนิยมตั้งให้ทารกเกิดหหใษมากที่สุดในปี 2010 คือ มูฮัมหมัด
          .. แนวคิดต่อต้านผุ้อพยพและชาตินิยมขวาจัดเกิดขึ้นในเดินมร์กเมือ่ช่วงปลายทาศวรรษที่ 1990 และกำลังแผ่อิทธิพลไกลขึ้นเรื่อยๆ จนยากที่หยุดหยั้ง
          " แต่ความเกลี่ยดกลัวชาวต่างชาติ ไม่ได้เพ่ิมขึ้นเลย บางครั้งกลับลดลงด้วยซ้ำ ดังนั้นประเด็นนี้น่าจะถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองมกว่า" อลัฟ บีเจิร์ลด นักรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโกเทนเบิร์กของสวีเดน ระบุ..
          .. นักวิชาการบางคนระบุว่า แนวคิดขวาจัดใหนลุ่มแระเทศนอร์ติกได้หยั่งรากลึกในระบบการเมือง จนไม่สามารถใช้คำว่า "สุดโต่ง" ได้อีกต่อไป " แนวคิดเหล่านี้เร่ิมฝังรากลึก และกลายเป็นส่วนหนึ่งของกระแสหลักไปแล้ว " อันเดอร์ส เฮลล์สโตรม ผุ้เชี่ยวชาญด้านชวยนการชาตินิยมและประชานิยมชาวสวีเดน เผย...http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000092586

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)