World Economic Forum

            ยุโรปในการประชุม World Economic Forum ที่ดาวอส
             เมื่อ 23-26 ที่ผ่านมา มีผู้นำทางการเมืองและเศรษฐกิจโลกและบุคคคสำคัญระดับโลกกว่าหลายพันคน มารวมตัวกันเพื่อถกเถียงและหารือ เกี่ยวกับเทรนด์ปัจจุบันและการเดินหน้าอนาคตเศรษฐกิจโลก ปีนี้ มีผุ้นำยุโรปและผุ้นำโลกมาร่วมงานหลายท่าน วซึ่งพวกเขาได้แสดงท่าที่เกี่ยวกับอนาคตเศรษฐกิจการเมืองและสังคมโลกและยุโรปไว้อย่างน่าสนใจ มีประเด็นอะไรที่พวกเขาห่วงกังวล เราหยิบยกวิสัยทัศน์ของผุ้นำที่สำคัญดังนี้
            ในแนวคิดของผุ้นำยุโรป "การเปิดกว้าง การต้าเสรี และการสร้างพันธมิตรและความร่วมมือระหว่างกัน เป็นกุญแจสำหรับอนาคตยุโรป" นายกรัฐมนตรีเยอรมัน นาง แองเจลล่า เมอเคิล  ต่อต้าน โปรเทคชั่นนิสต์ เธอย้ำจุดยือของเยอรมนีในการร่วมกับประชาคมโลกในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมต่างๆ ที่รุมเร้าผ่านการสร้างความร่วมมือที่เธอเรียกว่า spirit of global cooperation โดยเน้นระบบการต้าที่เปิดกว้าง เธอต้านระบบการต้าแบบปิดกั้น โปรเทคชันนิสต์ และบอกว่าเราไม่ตองการ "กำแพง" ที่ปิดกันอีกต่อไป เราต้องเรียนรู้จากอดีต และต้องร่วมกันสร้าง ความร่วมมือ" เรียกว่าแนวคิดนี้ ออกแนวต่อต้านแนวคิดเชิง โปรเทคชั่นนิสต์ ของประธานาธิบดี ทรัมป์ ในขณะที่ผุ้นำยุโรปยึดมั่นกับการเดินหน้านโยบายการต้าเสรี รัฐมนตีพาณิชญ์สหรัฐฯ มองว่า "สงครามการต้ามันต้องต่อสุ้กันทุกวันอยู่แล้ว
         “France is back at the core of Europe”เป็นการสร้างความเชื่อมีั่นในแก่ประชาคมดลกและยุดรปว่า ฝรัี่งเศสยือหยัดเดินหน้าเป็นแกนนำใหากรสร้างอนาคตของยุดรปต่อไป และบอกอีกว่า ฝรั่งเสสจะประสบสำเร็จไม่ได้เลยหากไม่มีความสำเร็จของยุโรป
 ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นาย มาครง ผลักดัน climate Change เขาประกาศวา
           ประเด็นที่ฝรั่งเศสผลักดันมาในเวทีระหว่างประเทศ ได้แก่ การต่อสู้และการสร้างความร่วมือระดับโลกเรื่องการเปลี่ยนแปลงองสภาพอากาศ ฝรั่งเศสมีเป้าหมายจะปิดโรงงานถ่านหินทั้งหมดภายในปี ค.ศ. 2021 จะเป็นโมเตลในการต่อสู้ ไคลเมท เชนจ์ และต้องการผลักดันความตกลง พลาสทิส อกรีเมนท์ ให้เดินหน้าให้มีแผนปฎิบัติการอย่างเป็นรูปธรรมทีเห็นผลภายในปี ค.ศ.2020 ที่ดาวอส ประะานาธิบด มาครง ได้พบกับปรธานาธิบดีจีน นาย สี จีพิง และได้รับทราบเกี่ยวกับความุ่งมั่นของผุ้นำจีนใน ความตกลง พลาสทิส อะกรีเม้นท์ เรื่อง ไคลเมท เชนจ์ ด้วย เขาคิดว่า ความเชื่อมโยงระหว่างเอเชียกับยุโรป ในเส้นทาง ถนนสายไหมใหม่ นั้นจะต้องเป็นเส้นทาง "สีเขียว"
          นายกรัฐมนตรี ญิง เออน่า โซลเบ่อ ของนอร์เวย์ชูประเด็นสิทธิสตรี เธอเป็นหนึ่งในวิทยากรหญิง 7 ท่านที่เข้าร่วมกันสัมนาในหัวข้อ เวทีการกาวอส หารือเรื่องสิทธิสตรี
          นายกรัฐมนตรีหญิง ของนอร์เวย์ กล่าวว่า "ตอนนี้เรื่องใหญ่ที่สุดที่เราควรทำความเข้าใจไม่ใช่เกี่ยวกับว่าเป็นผุ้ชายหรือผุ้หญิง แต่เกี่ยวกบการใช้พรสวรรค์ของสังคมในภาพhttp://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/643883
รวม"
          ดร.มาโนชญ์ อารีย์ หัวหน้าภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ และนักวิชาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศซึ่งได้วิเคราะห์เรื่องราวเกี่ยวกับการเืองโลกในประเด็น แนวโน้ม การเมืองโลกที่จะมีความเปลี่ยนแปลงไป รวมถึคงขั้วอำนาจโลกที่จากเดิมคือสหรัฐฯ แต่ในอนาคตขั้นอำนาจจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หลังนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นครองเก้าอี้ประธานาธิบดี ทำให้สหรัฐฯ โดดเดียวตัวเองจากประชาคมดลกมากขึ้นและประเด็นที่มหาอไนาจไม่ต้องการทำสงครามกนเอง จนเป็นที่มาของสงครามตัวแทน ซึ่งเป็นแกนใหญ่ของการเปลี่ยนแปลงโลกในปีนี้อย่างน่าวสนใจ
       เป้ฯที่มาของการเปลี่ยนแปลงโลก ประเด็นแรก การขับเคี่ยวของมหาอำนาจโลกหลังจากนี เห็นได้จากปี 2017 ที่ผ่านมา นโยบายนี้ ได้ลดบทบาทบนเวทีการเมืองโลกของสหรัฐฯ ลงอย่างมาก โดยสหรัฐฯ โดดเดี่ยวตัวเองจากสังคมดลก และถูกโดดเดี่ยวออกไป ในกรณีที่อเมริกาโดดเดียวตัวเองออกไป เห็นได้จากกรณีที่สหรัญฯ ไม่ร่วมมือ "ข้อตกลงปารีส" ที่ว่าด้วยเรื่องสิ่งแวดล้อม ขณะที่จีน ซึ่่งเป้นอีกนึ่งมหาอำนาจที่น่าจับตามมองกลับเป็นประเทศที่เรียกร้องให้สังคมระหว่างประเทศ ต่อสู้กับภาวะการเปลียนแปลของสภาพอากาศ
นโยบายอเมริกัน เฟริสต์
         แกนอำนาจโลกเคลื่อนย้าย สหรัฐฯ ถุกลอทอนบทบาท จีนจับมือรัสเซียผงาด ขึ้นแท่น มหาอำนาจโลกเจ้าใหม่!!
         สหรัฐฯ ถูกโดดเดียวในสังคมระหว่างประเทศ จากกรณีสหรัฐฯ รับรองสภานะของเยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงของอิสราเอลในเวทีสหประชาชาติ เป้นการส่งสัญญาณว่า ในปี 2018 ทำให้สหรัฐฯ ถูกลอทอนบทบาท ลงไป ในขณะที่จีนจะก้าวขึ้นมามีบทบาทชัดเจนมากยิ่งขึ้น และเป้นประเทศคอมมิวนิสต์ที่นำกลุ่มประเทศเสรีนิยม
         ในปีที่แล้วประธานาธิบดี "สี จิ้น ผิง" ได้รับการยอมรับในประเทศมากขึ้น และกระชับความสัมพันะ์กับพรรคอมมิวนิสต์ในจีน ถึงขึ้นถูกวางสถานะเที่ยวเท่าประธานเหมา หรือ เหมา เจ๋อ ตุง ผุ้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ดังนั้นในปีนี้บทบาทของจีนในเวทีโลกจึงเพ่ิมมากขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากในประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น ดดยเฉาพะการจับมือกัลรัสเซีย ในลักษณะเป้นพันธมิตรร่วมกัน แม้จะตางความคิดต่างอุดมการณ์ แต่เชื่อว่าการที่สองประเทศทำเช่นนี้ ก็เพื่อคามอำนาจสหรัฐฯ ว฿่งเป้นขึ้นอำhttps://news.mthai.com/webmaster-talk/611544.html
นาจสำคัญของโลกในปี 2018 แกนอำนาจดลกเปลี่ยนและเคลื่อนย้าย เพราะจีนและรัศเซียจะก้าวขึ้นมามีบทบาทที่เด่นชัดมากย่ิขึ้นและจะส่งผลกับระบบระหว่างประเทศทั้งหมด รวมถึงประเทศเล็กๆ น้อยๆ ที่จะมีโอกาสในการตัดสินใจมากขึ้น ว่าจะมีนโยบายต่างประเทศกับมหาอำนาจอย่างไร และไม่จำเป้นต้ององกับสหรัฐฯ ดังเช่นหลังยุคสงครามเย็นอีกต่อไป เรพาะจีนและรัสเซยขึ้นมามีอำนาจ และมีสภานภาพที่สามารถพึงพิได้ ขณะที่ในปีนีจะมีบรรากาศที่ใกล้เคียงกับสงครามเย็น เพราะประเทศเล็กๆ สามารถแสวงหาผลประโยชน์ได้จากทุกฝ่าย ซึ่เงป็นข้อดีข้อหนึ่ง "สงครามเย็น"

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)