Stockholm syndrome

           สตอกโฮล์ม ซินโดรม อาการทางจิตท่มักจะเกิดขึ้นกับตัวประกันที่ถูกจับตัวไป แต่ดันไม่เอาผิดคนร้ายหรือบางเคสก็กลับเข้าข้างคนร้าย
           จุดแรดเริ่มของสตอกโอล์ม ซินโดรม เกิดขึ้นจากคดีปลันธนาคารที่เมืองสติกฮล์ม ประเทศสวีเอน ตั้งแต่ ค.ศ. 1973 ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้มีคนร้ายจับตัวประกนซึ่เงป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารประมาณ 4-5 คน และควบคุมทตัวประกนทุกคนในธนาคารแห่งนันยาวนานเกือบ 5 วั แต่ในขณะที่ตำรวจจะบุกเข้าไปจับกุมคนร้าย ตัวประกันทั้งหมดกลับปกป้องคนร้ายอยางจริงจัง แม้กระทั่งตอนขึ้นศาลก็ยังให้การเข้าข้างคนร้าย แต่ที่ร้ายที่สุด คือมีตัวประกันบางคนถึงขั้นแต่งงานกับคนร้ายด้วย ทำให้นักจิตวิทยาต้องหาคำอธิบายเหตุการพิลึกพิลั่นนี้ และสุดท้ายก็มีคำว่า "สตอกโฮล์ ซินโดรม" เกิดขึ้นมา
            สตอกโฮล์ม ซินโดรม คืออการทางจิตที่เกิดขึ้นกับตัวประกนหรือเชลยที่ถูกจับตัวไป และใช้ชีวิตร่วกับคนร้ยในสถานที่อันจำกัดเป็นระยะเวลาหนึ่ง ทำให้กิดความรู้สึกผูกพันระหว่างกัน ก่อเกิดความเห็นอกเห็นใจสงสาร จนในที่สุดตัวประกันอาจเห็นผิดเป็นชอบไปกับคนร้าย กลายเป็นพวกเดียวกันเลยก็มี หรือบางเคสอาจโดนคนร้ายขู่ซ้ำๆ ว่าหากเหยือกระโตกกระตาก แจ้งตำรวจ จะทำร้ายหรือฆ่าท้ิง ซึ่งตัวรประกันก็จะรู้สึกหวาดกลัว และโอนเอียวไปในทางร่วมมือกับคนร้าย และทำตามความต้องการของคนร้ายอย่างว่่างายมากขึ้น
         
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้ตัวประกันเห็นใจคนร้ายมากขึ้น นันอก็อาจเป็นเพราะโจรที่จับตัวประกัไปไมได้มีพฤติกรรมเลยร้ายจนเหยือทนไม่ได้ และอาจดูแลเอาใจใสเหยื่อเป็นอย่างดี ทำให้เหยือเกิดความรู้สึกผูกพันมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่คิดจะหลยหนีหรือดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากการจับกุมแต่อยา่งใด ซึงจุดนี้ก็จะเพิ่มความลำบากในการติตามหาเหยื่อ หรือหากจับกุมคนร้ายได้แล้วก็อาจดำเนินคดีความกับคนร้ายไมด้ไม่มากเท่าที่ควร
           ในการบำบัดรักาาสตอกโฮล์ม ซินโดรม ยังไม่มีวิะีรักษาที่แน่ชัด แต่อาจบำบัดอาการได้โดยอาศัยเวลา ที่จะทำให้ความรู้สึกผูกพันกับคนร้ายนั้นค่อยๆ เจือจางลงไปด้วยตัวของมันเองhttps://health.kapook.com/view154493.html
          นาตาชา คัมพุช สาวน้อยในนรกอุ้งมือมาร 3,096 วัน
           มีนาคม 1998 นาตาชาเดินทางไปโรงเรยน ด้วยการเดินเท้าไปตามถนนเป็นปกติอย่างที่เคยเป็นแต่มันกลายเป็นเรื่องผิดปกติขึ้นมา เมื่อเธอได้หายตัวไปอยางลึกลับ ทางครอบครัวที่รอเธอกลบบ้านก็รู้สึกแปลกใจ ติดต่อทางโรงเรียนไป ทางโรงเรียนก็บกว่าเธไม่ได้มาเรียน
           หลังจากที่ครอบครัวแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกเขาสอบถามผู้คนที่น่าจะได้พบนาตาชาในช่วงก่อนหายตัวไป โดยในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็พบพบานที่เห้็นเธอครั้งสุดท้าย เขาเป็นเพียงเด็กวย 12 ปี โดยพยานบากว่า เห็นนาตาชาถุกชายสองคน ฉุดเธอเข้าไปในรถตู้สีขาว
            ทราบภายหลังว่า "โวล์ฟกัง พริ โคลพิล" จากกรุงเวียนา คือผู้ที่จับตัวนาตาชาไป และกักขังไว้ในห้องใต้ดินที่เขาสร้างไว้ในโรงรถ ห้องนี้มีทางออกซ่อนอยู่ด้านหลังของตู้เก็บของ ขนาดของห้องประมาณห้าตารางเมตร เป็นห้องเก็บเสียงไม่มีหน้าต่าง
ทางออกสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งถูกใช้เป็นที่กักขัวนาตาชา ในหกเดือนแรก ซึ่งเขาทั้งบังคับ ข่มขู่ทำร้าและขืนใจเธออยู่เป็นประจำ ซึ่งต่อมาเธอก้ได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องนั้นบ้างในเวลากลางืคือ โดยให้เธออยู่บริเวณชั้นบนของตัวบ้าน และต้องกลับเขช้าไปในห้องขึ้นเพื่อเข้านอนแบบนี้ทุกคืน ซึ่งต่อมาในตอนเช้าเขาก็อนุญาตให้เธอออกมาที่สวนบ้าง ซึ่งเพื่อนบ้านแถวนั้นเคยเห็นเธอ แต่ไม่ได้รับความสนใจแต่อย่างไร ในช่วงที่ถูกกักขัง นอกจาเธอจะุกข่มขืนอยุ่เป็นประจำแล้ว เธอจะต้องตื่นขึ้นมาทำอาหาร และกินข้าร่วมกับเขาทุกวัน อ่านหนังสือที่เขาซื้อมาให้เธอ ดูรายการที่วีได้เฉพาะรายการที่เขาบันทึกไว้ให้ ส่วนวิทยุนั้นเขาให้เธอฟังแต่รายการทีเ่ียวกับการ
ศึกษา ไม่ก็รายการที่ใช้ภาษต่างประเทศที่เธอเองก็ไม่เข้าใจ ซึ่งในทุกกิจกรรมนั้น โวล์ฟกังจะต้องอยู่ข้างๆ คอยล่วงละเมิดต่อร่างกายเธอเสมอมา และเมือใดที่เธอพยายามจะต่อต้าน เขาจะทำร้ายเธอด้วยการทุบตี
           โวล์ฟกัง ยังเคยพอเธอไปเที่ยรีสอร์เพื่อเล่นสกี ซึ่งที่นั่นเธอได้ยายามหาช่องทางที่จะขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไร้ผล เธอเคยกระโดดออกจากรถยนต์ แต่ก็ไมไ่สำเร็จเขาตามจบตัวเธอกลับมาได้ และพอกลับเข้ามาเขาก็ทำร้ายเธออย่างรุนแรง และเพิ่มควมเข้มงวดมากขึ้น กระทั่ง นาตาชาสบโอกาสจึงได้หนีรอดออกมา เธอวิ่งออกมาล้มลงละแวกเพื่อนบ้านและขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน จากนั้นเพื้อนบ้านสูงอายุจึงโทร.แจ้งตำรวจ นาตาชาถูกพิสูจน์ตัวตนด้วยรอยแผลเป็นและดีเอ็นเอ สุขภาพแม้จะแข็งแรงแต่การเจริญเติบโตไม่มากไปกว่าตอนที่ถูกจับตัวซักเท่าไร..
           ด้าน "โวฟกัง" พอรู้ว่าตำรวจกำลงจะมาตามจบตัว เขาก็ชิงฆ่าตัวตายโดยการกระโดดขวางชบวนรถไฟ ในกรุงเวียนนา ซึ่งเรื่องนี้มีการเปิดเผยจากนาตาชาว่า โวล์ฟกังเคยพูดไว้ว่า พวกตำรวจไม่มีทางจับเขาตอนยังมีชีวิตอยู่ได้แน่ๆ ซึ่งก็แปลว่า เขาวางแผนจะฆ่าตัวตายแบบนี้มาตั้งแต่ต้นแล้วนั้นเอง
          นาตาชาเล่าไว้ในสารคดีว่า เธอรู้สึกสงสารโล์ฟกังมาก และร้องไห้ทันที่เมือทราบว่าโวล์ฟกับเสียชีวิต จากนั้นเธอก็จุดเที่ยนเพื่อส่องทางให้เขา ทั้งๆ ที่โวล์ฟกังเป็นทำร้ายเขาแท้ๆ หนังสือพิมพ์ต่าพุดถึงอาการของนาตาชาว่า เธอป่วยเป็นโรคสต็อกโฮล์มซินโดรม หรือ"โรคเห็นอกเห็นใจคนร้ายhttp://www.mitithee6.com/2016/10/natacha-kampusch-3096-days-in-hell.html

           
           

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)