ประเทศจีน เป็นประเทศที่มีอารยธรรมยาวนานที่สุดประเทศหนึ่ง โดยหลักฐานทางประวัติศาสตร์สามารถค้นคว้าได้บ่งชี้ว่าอารยธรรมจีนมีอายุถึง 5,000 ปี รากฐานสำคัญของอารยธรรมจีนคือการสร้างระบบภาษาเขียน ในยุคราชวงศ์กอณัฐ(ศตวรรษที่ 58 ก่อน คริสตศักราช) ให้เป็นภาษากลางใช้ได้ทั่วประเทศเป็นครั้งแรกในโลก (ไม่ว่าชนเฟ่าใดๆ จะพูดต่างกัน สำเนียงต่างกัน แต่ใช้ตัวเขียนเหมือนกัน) และการพัฒนาแนวคิดลัทธิขงจื้อ เมื่อประมาณศตวรรษที่ 2 ก่อน ค.ศ. ประวัติศาสตร์จีนมีทั้งช่วงที่เป็นปึกแผ่นและแตกเป็นหลายอาณาจักรสลับกันไ ในบางครั้งก็ถูกปกครองโดยชนชาติอื่น เช่น มองโกล แมนจู ญี่ปุ่น วัฒนธรรมของจีนมีอิทธิพลอย่างสูงต่อชาติอืนๆ ในทวีปเอเชียและในสังคมโลก
สมัยก่อประวัติศาสตร์
- ยุคหินเก่า จีนเป็นดินแดนที่มนุษย์อาศัยเป็นเวลานานที่สุดในทวีปเอเชีย หลักฐานที่พบคือมนุษย์หยวนโหม่ว มีอายุประมาณ 1,700,000 ปี ล่วงมาแล้ว ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1965 ที่มณฑลยูนนาน ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และพบโครงกระดูกมนุษย์ปักกิ่ง มีอายุประมาณ 700,000 ปี -200,000 ปี ล่วงมาแล้ว ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1929 ที่บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของปักกิ่ง และพบหลักฐาน มนุษย์ถ้ำ มีอายุประมาณ 18,000 ปี ล่วงมาแล้ว ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1930 ที่บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของปักกิ่ง
- ยุคหินกลาง มีอายุประมาณ 10,000 ปี - 6,000 ปี ล่วงมาแล้ว ไม่มีการตั้งหลักแหล่งถาวร มีการพบเครื่องถ้วยชาม หม้อ มีการล่าสัตว์ เก็บอาหาร เครื่องมือหินที่ใช้ในชีวิตประจำวัน คือ หินสับ ขูด หัวธนู
- ยุคหินใหม่ มีอายุประมาร 6,000 - 4,000 ปีล่วงมาแล้วเริ่มตั้งหลักแหล่งเป็นชุมชน รู้จักเพาะปลูกข้าวฟ่าง เลี้ยงสัตว์ ทอผ้า ปลูกบ้านมีหลังคม ในยุคหินใหม่นี้มีมนุษย์ทำเครื่องปั้นดินเผ่าที่สวยงามมากขึ้น และเขียนลายสี
- ยุคโลหาะ มีอายุประมาณ 4,000 ปีล่วงมาแล้วหลักฐานที่เก่าสุดคือมีดทองแดง แล้วยังพบเครื่องสำริดเก่าที่สุด ซึ่งนำมาใช้ทำภาชนะต่างๆ เช่น ที่บรรจุไวน์ กระถาง กระจกเงา มีขนาดใหญ่และสยงาน มากโดยเฉพาะสมัยราชวงศ์ชาง และราชวงศ์โจว
ยุคโบราณ สมัยประวัติศาสตร์จีน เป็นที่เลาขานสืบทอดกันมาในหมู่ชาวจีนว่า ตนเองเป็นลูกหลาน เหยียนตี้ และ หวงตี้เมื่อประมาณ 4,000 ปีมาแล้ว และยังเชื่อเช่นนั้นจวบจนปัจจุบัน
- ราชวงศ์เซี่ย (2,100-1,600 ปีก่อนคริสต์ศักราช) เล่ากันว่า ในสมัยเหยา นั้นแม่น้ำหวงโห้ เกิดทุทกภัยน้ำหลากเข้าทำลายบ้านเมือง ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพไปอยู่บนต้นไม่หรือบนยอดเขาเท่านั้น ซึ่งภายหลังพระเจ้าอวี่ ใช้เวลา 13 ปีในการแก้ปัญหาอุทกภัยนี้สำเร็จ และได้รับขนานนามว่า ต้ายวี่..ราชวงศ์
เซี่ยมีประวัติยายนานเกือบ 500 ปี มีกษตริย์ปกครอง 17 องค์ กระทั่งพระเจ้าเจี๋ย ซึ่งโหดร้าย ไร้คุณธรรมเป็นที่่เกลียดชังของราษฎร เป็นเหตุให้ราชวงศ์เชี่ยล่มสลาย..
- ราชวงศ์ซาง (1,6000-1046 ปีก่อนคริสต์ศักราช) มีอำนาจอยู่ประมาณ 550 ปี ในช่วงนี้มีการก่อตั้งกองทหารข้าราชการและมีการลงโทษตามกฎหมาย มีกษัตริย์ 31 พระองค์ ราชวงศ์ซางเกิดจากการปฏิวัติของชนชั้นสูงครั้งแรกในประวัติศาสตร์จีนเนื่องจาก ผุ้ครองแผ่นดินเป็นผุ้ไร้คุณธรรม และในยุคนี้ยังมีการเริ่มใช้ภาชนะสำริดอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะประเภท ถ้วยสุรา มีดวงพระจันทร์ กลองสำริด กษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์เป็นผุ้เหี้ยมโหด ขูดรีดเงินจากราษฎร สุดท้ายต้องฆ่าตัวตายด้วยการเผ่าตัวเอง ราชวงศ์ซางจึงล่มสลายแล้วสถาปนาราชวงศ์โจวครองแผ่นดิน
- ราชวงศ์โจว ( 1046-256 ปีก่อนคริสต์ศักราช) นักประวัติแบ่งเป็น โจวตะวันตก และโจวตะวันออก ซึ่งระยะครองแผ่นดินต่อเนื่องกัน 790 ปี (ยาวนานที่สุดในจีน) เนื่องจากมีการย้ายเมืองหลวงหลังจากแพ้ชนะกัน จึงแบ่งราชวงศ์นี้ด้วยทิศทางของเมืองหลวงเป็นหลัก
- ยุคชุนชิว (770-256 ปีก่อนคริสต์ศักราช) หลังจากอาณาจักรโจวตะวันตกของพระโจวโยวหวัง ล่มสลายลงโดยความร่วมมือของเจ้านครรัฐบางคนกับเผ่าเฉวียนหรง แล้วพวกเขาสถาปนารัชทายาท อี้จิ้ว ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ใหม่ทรงพระนามว่า พระเจ้าโจวผิงหวัง แล้วย้ายไปตั้งเมืองหลวงใหม่ที่ เมืองลั่วอี้ ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ใหม่..นักประวัติศาสตร์เรียกช่วงการครองอำนาจของราชวงศ์นี้ว่า ยุคชุนชิว ซึ่งมีสงครามแย่งชิงความเป็นใหญ่ของเจ้านครรัฐต่างๆ เป็นระยะเพื่อความเป็นเจ้าผุ้นำนครรัฐ
- ยุคเลียดก๊ก ต้นยุคชุนชิวแผ่นดินจีนมีประมาณสองร้อยนครรัฐ แต่สงครามแย่งชิงอำนาจหรือแผ่ขยายอิทธิพลต่างผนวกดินแดนต่างๆ เข้ากับรัฐผู้ชนะจนกระทั่งเหลือเพียงรัฐใหญ่ เจ็ดรัฐมหาอำนาจในตอนปลายยุคชุนชิวนักประวัติศาสตร์จีนเรียกว่า เจ็มหานครรัฐแห่งยุคจั้นกั๋ว ยุคนี้สิ้นสุดโดยการขึ้นครองอำนาจของ อิ๋งเจิ้ง แห่งรัฐฉิน หรือที่รู้จักกันในนาม จิ๋นซีฮ่องเต้ โดยถือเป็นจักรพรรดิองค์แรกของจีน
สมัยราชวงศ์ เริ่มยุคสมุยตั้งแต่ 221-206 ปีก่อนคริสต์ศักราช เรื่อยมากระทั่ง ค.ศ. 1912 ยุคราชวงศ์นี้มีการปกครองที่ยาวนานกว่า 2,000 ปี ประกอบด้วย ราชวงศ์ ฉิน จีนยุคจักรวรรด ซึ่งเป็นผู้ว่างรากฐานแก่ราชวงศ์ฮั่น ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก นักประวัติศาสตร์จีนแบ่งยุคสมัยของราชวงศ์ฮั่นเป้นสองยุคตามที่ตั้งของเมืองหลวงราชวงศ์ซิน เป็นราชวงศ์สั่นๆ ผุ้ก่อตั้งคือ อองมัง ทรงได้อำนาจจากการปฏิวัติโค่นล้มจักรพรรดิฮั่นราชวงศ์ฮั่นตะวันออก เป็นราชวงศ์ที่ถูกกู้ขึ้นมา หลังถูกยึดอำนาจ ช่วงปลายราชวงศ์เกิดโจรโพกผ้าหลือง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคขุนศึก หรือที่เรียกกันว่า ยุคสามก๊ก ด้วยความเจริญของชนชาติจีนในยุคราชวงศ์ฮั่น คนจีนจึงเกรียตัวเองว่าเป็น "ชาวฮั่น" สืบมาจนถึงปัจจุบัน ยุคสามก๊ก เป็นยุคที่แผ่นดินแยกออกเป็น 3 ก๊ก โดยมีก๊กของ เล่าปี่, ก๊กของ โจโฉ และก๊กของ ซุนกวน แต่สุดท้าย ทั้งสามก๊กล่มสลาย สุมาเอี๋ยน ซึ่งเป็นขุนศึกในก๊กโจโฉ ยึดอำนาจ และก่อตั้งราชวงศ์จิ้น ราชวงศ์จิ้นตะวันตก สุมาเอี๋ยน สถปนาตนเองเป็นจิ้นอู่ต้น ก่อตั้งราชวงศ์จิ้นตะวันตก แทนที่ราชวงศ์ของโจโฉ และสามารถปราบง่อก๊กของซุนกวนลงได้ รวมแผ่นดินเป็นปึกแผ่น ยุติยุคสามก๊ก ราชวงศ์จิ้นได้เปิดรับเผ่านอกด่านทางเหนือเข้ามาเป็นจำนวนมาก หัวหน้าเผ่า ซงหนู หลิวหยวน ประกาศตั้งตนเป็นอิสระ และต่อมายกกำลังเข้าบุคนครหลวงองจิ้นตะวันตก จับตัว จิ้นหวยตี้เป็นตัวประกันและสำเร็จโทษในเวลาต่อมา ราชวงศ์จิ้นตะวันออก การล่มสลายของราชวงศ์จิ้นตะวันตก ทำให้แผ่นดินตกอยู่ในภาวะแตกเป็นเสี่ยงๆ ราชวงศ์จิ้นย้ายฐานที่มั่นไปทางใต้ สถาปนา ราชวงศ์จิ้นตะวันออก ประกอบกับการเปิดรับชนเผ่านอกด่าน สถานการ์ทางตอนเหนือจึงวุ่นวายอย่างหนัก แผ่นดินที่แตกออกเป็นแว่นแคว้นของชนเผ่าต่างๆ โดยเรียกยุคนี้ว่า ยุคห้าชนเผ่าสิบหาแคว้น เป็นยุคสั้นๆ ที่เกิดการหลอมรวมทางวัฒนธรรมของจีนเชื้อสายต่างๆ ราชวงศ์เหนือใต้ เมื่อราชวงศ์จิ้นตะวนตกล่มสลาย ภาคเหนือของจีนจึงตกอยู่ในภาวะจลาจลและสงครามชนเผ่า กระทั่งหัวหน้าเผ่าทั่วป๋าเชซียนเปยได้สถาปนาแค้วเ่ปยวุ่ย และยุติความวุ่นวายจากสงครามแย่งชิงอำนาจที่เกิดขึ้นทางภาคเหนือ หลังจากสถาปนาราชวงศ์สุย แล้วจึงกรีธาทัพลงใต้ยุติสภาพการแบ่งแยกเหนือใต้อันยาวนานของแผ่นดินจีนได้เป็นผลสำเร็จ ราชวงศ์สุย ราชโอรส สุยเหวินตี้ฮ่องเต้ ไม่มีความสามารถทำให้ซ้ำรอยราชวงศ์ฉิน บรรดาผุถ้ปกครองหัวเมืองต่างๆ ตั้งตนเป็นใหญ่และแย่งชิงอำนาจ ราชวงศ์สุยอยู่ได้เพียงสองรัชกาล ราชวงศ์ถัง หลี่หยวนขุนนางใหญ่ในสมัยสุย ได้ลุกฮือและ ตั้งราชธานี่ที่เมืองฉางอัน ผุ้นำแค้วนถังสถาปนาตัวเองเป็นอิสระจากสุยหยางตี้ และได้รับชัยชนะเด็ดขาดจาแคว้นอื่นไ ในที่สุดหลี่่ซื่อหมิน(โอรสรอง) ยึดอำนาจจากรัชทายาท...ขึ้นเป็น ถังไท่จงฮ่องเต้ และเริ่มต้นยุคถัง เป็นยุคที่รุ่งเรืองเทียบได้กับยุคฮั่น ปลายราชวงศ์ถัง มีการก่อกบฎ ขันที่ครองอำนาจ แม่ทัพสังหารขันทีแล้สสถาปนาตนเป็นจักรพรรดิ สิ้นสุดราชวงศ์ถัง ยุคห้าราชวงศ์สิบอาณาจักร บรรดาหัวเมืองต่างๆ มีการแบ่งอำนาจเป็นห้าราชวงศ์สิบอาณษจักร ราษฎรเต็มไปด้วยความลำบาก ต่อมาเจ้าควงอิ้น ผุ้บัญชาการทหารองครักษ์ชิงอำนาจจากราชวงศ์โจวตั้งตนสถาปนาราชวงศ์ซ่งหรือซ้อง และปราบปรามรวมอาณาจักรเรื่อยมา จนกระทั่งสามารถรวบรวมแผ่นดินได้อีกครั้ง ราชวงศ์ซ่ง เจ้าควงอิ้นสถาปนาราชวงศ์ซ่ง เมืองหลวงอยู่ที่ไคฟง รวบรวมแผ่นดินแล้วใช้นโยบาย "ลำตันแข็ง กิ่งก้านอ่อน"ในการบริหารประเทศ อันมีประโยชน์ในการสร้างเสถียรภาพแก่อำนาจส่วนกลาง แต่ท้องถิ่นกลับอ่อนแอ อำนาจการใช้กระบวนการยุติธรรมถูกควบคุมโดยส่วนกลาง หยวนชื่อจู่(กุบไลข่าน) โค่นราชวงศ์ซ่ง ปกครองจีน ราชวงศ์หยวน หรือราชวงศ์มองโกลขึ้น ยุคสมัยนี้มีชาวต่างประเทศเดินทางมาค้าขายเช่น มาร์โคโปโล มีการพิมพ์ธนบัตรจีนขึ้นครั้งแรกมีการส่งกองทัพรุกราน ชวา เวียดนาม ญี่ปุ่น และไม่ประสบความสำเร็จ ยุคสมัยนี้อาณาจักรมีขนาดใหญ่มาก ใหญ่กว่าโรมถึง 4 เท่า หลังจากกุบไลข่านสิ้นพระชนม์ ชนชั้นมองโกลกดขี่ชาวจีนอย่างรุนแรง จนเกิดกบฎ มีการสะสมกองกำลังทหาร ช่วงปลายราชวงศ์หยวนจูหยวนจาง ได้ปรบปรามกลุ่มต่าง และขับไล่ราชวงศ์หยวนออกไปจากแผ่นดินจีนได้สำเร็จ ราชวงศ์หมิง เป็นราชวงศ์จีนสถาปนาโดย จูหยวนจาง ในสมัยหมิง มีนักการเมือง จางจวีเจิ้ง สามารถคลี่คลายความขัดแย้งทางสังคมและกอบกู้การปกครองของราชวงศ์หมิงด้วยวิธีดำเนิกการปฏิรูป เขาปรับปรุงระบบขุนนาง พัฒนาการเกษตร ซ่อมแซมแม่นำ้คูคลอง รวมภาษีอากรและการกะเกณฑ์บังคับต่างๆ ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เจิ้งเหอ ซึ่งชาวไทยเรียกกันว่า ซำเปากง ได้นำกองเรือจีนไปเยือนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และแอฟริกาทั้งหมดกว่า 30 ประเทศ รวม 7 ครั้งตามลำดับ แต่ชวงกลางราชวงศ์ถูกรุกรานจากหลายประเทศ การค้าได้พัฒนาเริ่มปรากฎเป็นเค้าดครงของเศรษฐกิจแบบทุนนิยม จีนมีที่ดินรกร้างว่างเปล่ารมากกมาย จักรพรรดิหมิงไท่จู่ได้รวบรวมคนพเนจร ลดและงดภาษีให้ ทำให้จำนวนชาวนามีที่ทำเองเพิ่มมากขึ้นในช่วงต้นราชวงศ์หมิง วรรณกรรมเรื่องยาวในสมัยราชวงศ์หมิงมีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงต่างๆ เช่น "ซ้องกั๋ง" "สามก๊ก" "ไซอิ้ว" หรือ เรือง "บุปผาในกุณฑีทอง"เป็นต้น ปลายสมัยราชวงศ์ าภาพผูกขาดที่ดินรุนแรงมาก ความขัดแย้งระหว่างชนชั้นรุนแรงขึ้น การต่อสู้ในชนบททวีความรุนแรง เกิดทุพภิกขภัยแต่ข้าราชการยังคงบีบบังคับประชาชนจ่ายภาษี เกิดการลุกฮือ ประชาชนรวมตัวเป้ฯกองทหารชาวนา กระทั่งบุกเข้ากรุงปักกิ่ง กระทั่งจักรพรรดิฉงเจินต้องผูกพระคอสิ้นพระชนม์ ซึ่งเป้นการสิ้นสุดของราชวงศ์หมิง ราชวงศ์ชิง เป็นชนเผ่าต่างชาติทางเหนือที่เข้าาปกครองประเทศจีน ต่อจากราชวงศ์หมิงซึ่งภายหลังเกิด "ศึกกบฎราชวงศ์หมิง" ภายในประเทศจีน โดยกบฎเปิดประตูเมืองให้แมนจูเลียเข้ายึดครอง ทำให้ได้รับสมยานามกษัตรยิ์ ชิงไทจงฮ่องเต้ เพราะเข้ายึดโดยไม่ต้องลงจากหลังม้า เป็นราชสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง การตรวจราข้อบังคับของสังคม,ศาสนา,และการค้าทางเรือที่รุ่งเรืองที่สุดยุคหนึ่ง การให้ขายจีนไว้ผมหางเปียและใส่เสื้อแบบแมนจูเลีย เลียนแบบสมัยราชวงศ์ถึงเก่า พร้แมประคำ และต้องนับถือพุทธจีน ศาสนาพุทธจีนเจริญรุ่งเรื่องมากยุคหนึ่ง
จีนยุคใหม่
- ยุคสาธารณรัฐจีน ปี พ.ศ.2454 เกิดการปฏิวัติซินไฮ่ ซึ่งเป็นการปฏิวัติเป็นสาธารณรัฐโดยตร.ซุนยัดเซ็น ราชวงศ์ชิงถูกยึดอำนาจในปีนัน และใน พ.ศ. 2455 ผู่อื้ จักรพรรดิองค์สุดทายถูกบังคับให้สละราชสมบัติ ถือเป็นจุดอวสานของราชวงศ์ชิง และการปคกรองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของจีน ดร. ซุนยัดเซ็น เป็นผุ้นำการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบบสมูรรณยาสิทธิราชซึ่งปกครองด้วยสิทธิขาดของจักรพรรดิ มาเป็นระบอบสาธารณรัฐโดยมี ยุเหวียน ชื่อไย่เป็นประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐจีน
หลังจากซุนยัดเซ็นเสียชีวิต เป้นช่วงเวลาชิงอำนาตระหว่างฝ่ายประชาธิปไตย คือ เจียงไคเช็ค แับฝ่ายคอมมิวนิสต์ นำโดย เหมาะเจ๋อตุง ช่วงแรกเจียงไคเช็คเป็นฝ่ายชนะและทำการปฏิวัติได้สำเร็จ สุดท้ายกลุ่มผุ้นำพรรก๊กมินตั๋งรวมตัวกันขับไล่ เจียงไคเช็หนีไปยังเกาะไต้หวัน และสถาปนาสาธารณรัฐจีนขึ้นแทน
- ยุคสาธารณรัฐประชาชนจีน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1949 เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์มีชัยชนะเหนือพรรคก๊กมินตั๋งในสงครามกลางเมืองจีน เหมาะ เจ๋อตุง ประกาศตั้งสาะารณรัฐประชาชนจีน(PRC) ที่กรุงปักกิ่งบน จตุรัสเทียนอัันเหมินเพื่อปกครองจีนแผ่นดินใหญ่(th.wikipedia.org/../ประวัติศาสตร์จีน)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
Official vote counting...(3)
แม้คะแนนอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกมา แต่แฮร์ริสก็ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยืนกรานว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป รองป...
-
องค์ประกอบของโยนิโสมนสิการ ลักษณะการคิดแบบโยนิโสมนสิการมี 10 ประการ สรุปได้ดังนี้ครับ สืบสาวเหตุปัจจัย แยกแยะส่วนประกอบ สามัญลักษณ...
-
อาจกล่าวได้ว่า สงครามครูเสดเป็นความพยายามครั้งรแกๆ ของยุโรป และเป้นสำเร็จโดยรวมในความพยายามที่จะค้นหาตัวเองภายใต้วัฒนธรรมท่เป็...
-
วรรณกรรมในสมัยยุโรปกลาง จะแต่งเป็นภาษาละติน แบ่งเป็นวรรณกรรมทางศาสนา และ วรรณกรรมทางโลก วรรณกรรมทางศาสนา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น