ติดต่อร้ายแรง เช่น การติดเชื่อเอชไอวี โรเอดส์แล้ว ปัญหายาเสพติดยังเป้นอีกปัญหาหนึ่งเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงต่อประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนมากเช่นกัน เนื่องจากยาเสพติดจะทำลายศักยภาพของประชาชนและเยาวชนอาเซียนและจะส่งผลต่อขีดความสามารถในการพัฒนาในอนาคต หากพิจารณาลักษระและความเกี่ยวข้องกับปัญหายาเสพติดของประเทศต่างๆ ในอาเซียน ซึ่งแบ่งเป็น
ประเทศที่มีสถานะผุ้ผลิตยาเสพติด ได้แก่ เมียนมาร์ ซึ่งเป็นผุ้ผลิตฝิ่น เฮโรอีน ยาบ้า และไอซ์
ประเทศที่มีสถานะเป็นทางผ่านยาเสพติด หรือเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดจากแหล่งผลิตในเมียนมาร์ไปยังประเทศอื่นๆ ได้แก่ ไทย ลาว กัมพุชา เวียดนาม มาเลเซีย
ประเทศที่มีสถานะเป็นผุ้บริโภคหรือเป็นแหล่งแแพร่ระบาดยาเสพติด ได้แก่ ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย
สาเหตุที่ไม่มีประเทศบรูไนและสิงคโปร์ ปรากฎในการจำแนกหลุ่มประเทศที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เนื่องจากเป้นประเทศที่มีปัญหายาเสพติดน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในกลุ่มอาเวียน แต่ก็ไม่ได้หมายคึวามว่าต่างก็เป็นประเทศที่ปลอดยาเสพติดอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากเมื่อศึกษาข้อมุลเกี่ยวกับลักษระของปัญหายาเสพติดหลักที่แพร่ระบาดในประศสมาชิกอาเซียน และการดำเนินงานของอาเซียนจะพบว่า
- พ.ศ. 2519 มีการประกาศปฎิญญาอาเซียนว่าด้วยหลักการในการต่อต้านการใช้ยาเสพติดในทางที่ผิด
- พ.ศ.2541 มีการประกาศปฎิญญาว่าด้วยการปลอดยาเสพติดในอาเซียน พ.ศ. 2563
- พ.ศ.2543 รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเห้นควรให้ร่นเวลาการปลอดยาเสพติดในอาเวียนจากปี พ.ศ. 2563 เป็นปี พ.ศ. 2558
แอมเฟตามีน |
- พ.ศ. 2552 เจ้าหน้าที่อาวุโสอเาซียนด้านยาเสพติดให้การรับรองแผนปฏิบัติการอาเซียนเพื่อต่อต้านการลักลอบค้ายาเสพติด
- พ.ศ.2553 มีการกำหนดเกณฑ์วัดผลสำหรับการดำเนินงานการปราบปามการผลิตและการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ได้แก่
การขจัดเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการผลิตยาเสพติด
การขจัดเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบลำเลียงยาเสพติด
การขจัดการลักลอบและการนำสารตั้งต้นไปใช้ในการผลิตยาเสพติด
การส่งเสริมความร่วมมือข้ามพรมแดนและการปฏิบัติการด้านการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ
เพื่อให้การปราบปรามการผลิตและการลักลอบวำเบียงยาเสพติดเกิดผลในทางปฏิบติ ประเทศสมาชิกอาเซียนได้ใช้ปฏิญญาว่าด้วยการปลอดยาเสพติดในอาเซียน พงศ. 2558 ซึ่งหมายถึง "การดำเนินกิจกรรมการควบคุมยาเสพติดที่ผิดกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพและประสบผลสำเร็จ พร้อมทั้งลดผลต่อเนื่องต่างๆ ในเชิงลยอันอาจเกิดขึ้นกับสังคม" เป็นกรอบความคิดหลัก และได้กำหนดกรอบทางยบุทธศาสตร์ไว้ 6 กรอบความร่วมือ ดังนี้
1. กรอบความร่วมมือในด้านการลดอุปทานยาเสพติด คือการดำเนินการปราบปรามยาเสพติด ทั้งในด้านการข่าว การปราบปรามกลุ่มการต้ายาเสพติด การสกัดกั้นตามท่าอากาศยาน การยคึดทรัพย์สิน ฯลฯ
2. กรอบความร่วมมือในด้านการเสริมสร้างความมั่นคงชายแดน คือ การดำเนินงานในด้านการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน การเสริมสร้างชุมชนตามแนวชายแดนในเข้มแข็ง การจัดระเบียบชายแดน ฯลฯ
3. กรอบความร่วมมือการลดพื้นที่ปลูกพืชเสพติดด้วยการพัฒนาทางเลือก คือ การใช้แนวทางการพัฒนาทางเลือกตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาลดปัญหาการปลูกฝิ่น
4. กรอบความร่วมมือด้านการสร้างภุมิคุ้มกันป้องกันยาเสพติด คือการดำเนินการด้านการป้องกนยาเสพติดในกลุ่มี่กำนดเป็นเป้าหมายร่วม สกัดวงจรของผุ้เสพยาเสพติดรายใหม่ในกลุ่มประเทศอาเซียน
เมทแอมเฟตามีน |
6. กรอบความร่วมมือด้านการพัฒนาวิชาการและการพัฒนาในด้านต่างๆ ได้แก่ การพัฒนาความร่วมมือในด้านการวิจัย วิชาการ การพัฒนาความร่วมมือด้านนิติวิทยาศาสตร์ต่างๆ ดังกล่าว จะเห็นว่าถ้าทุกประเทศในประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนให้ความร่วมมือดำเนินการตามกลยุทธ์ต่างๆ ที่กำหนดไว้อย่างต่อเนื่อง จริงจัง และจริงใจ เชื่อได้ว่าปัญหายาเสพติดในประเทศอาเวียนน่าจะคลี่คลาย ลงได้ตามสมควร ถึงแม้ว่าอาจจะไม่บรรลุถึงเป้าหมายการเป็นอาเวียนปลอดยาเสพติด ภายใน พ.ศ. 2558 ดังที่กำหนดไว้ก็ตามwww.aseanthai.net/ewt_news.php?nid=4203&filename=index
ประเทศในกลุ่มอาเซียนมีความร่วมมือกันมากนานแล้วในเรื่องของปัญหายาเสพติด แต่ด้วยสถานกาดรณืของอาชญากรรมข้ามชาติในรูปแบบยาเสพติดซึ่งเป้นปัญหาใหม่ที่เกิดขึ้น จำเป้นอย่งย่ิงที่ความร่วมมือในเรื่องนี้ต้องมีความเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่ออยู่ภายใต้กรอบความร่วมมือของประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน
อาชญากรรมข้ามชาติในรูปแบบยาเสพติดเป็นอาชญากรรมที่กระทำโดยองค์กรอาชญากรรม มีการทำงานแบบลับ มีกระบวนการซับซ้อนเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุมกวาดล้าง ด้วยเหตุนี้ในการดำเนินการด้านการสืบสนวนติดตามจึงต้องใช้เทคนิคการสืบสวนแบบพิเศษเข้ามาดำเนินการด้วย
ในการประชุมสุดยอดผุ้นำอาเซียน ครั้งที่ 21 (2555) ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพุชา มีการับรองปฏิญญาร่วมของผุ้นำอาเวียน เพื่อให้เกิดการเป้นอาเวียนที่ปลอดยาเสพติดในปี 2015 (พ.ศ.2558) ซึ่งเป้นการเลื่อนกำหนดการปลอดยาเสพติดของอาเซียนให้เร็วขึ้นอีก 5 ปี จากเดิมที่กำหนดไว้ในการประกาศวิสัยทัศน์ของการเป็นเขตปลอดยาเสพติดอาเวียนภายในปี 2020 ( พ.ศ. 2563) ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดยิยามของ "ประชาคมที่ปลอดยาเสพติด" ว่าหมายถึง การที่สมาชิกอาเวียนสามารถควบคุมปัญหายาเสพติดได้อย่งมีประสทิธิภาพและประสบผลสำเร็จ โดยไม่สงผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตที่เป็นปกติสุขของสังคม
ประเทศในอาเซียนที่ประสบปัญหาในเรื่องการเสพยาเสพติดในระดับรุนแรง ได้แก่ อินโดนีเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ ไทย ในขณะที่ กัมพุชา ชาว มาเลเซีย และเวียดนาม ปัญหาการเสพยาเสพติดอยู่ในระดับปานกลาง สำหรับประเทศบรูไนและสิงคโปร์จัดเป็นประเทศที่มีปัญหายาเสพติดน้อย
การป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติในรูปแบบยาเสพติดโดยลำพังเฉพาะประเทศใดๆ จะกระทำได้ยากลำบากเนื่องจากสาเหตุหลายประการ เนื่องจาก
- ความหลากหลายของรูปแบบการกระทำผิด กล่าวคือมีการขนส่ง การลักลอบลำเลียงในรูปแบบใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม ชเ่น การขนส่งทางทะเล ช่องทางไปรษณีย์ การปลอดแปลงเอกสารเพื่ให้ผ่านพิธีการศุลกากร
- การกระทำผิดบนพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างประเทศ ผุ้ร่วมกระทำผิดมีมากกว่าหนึ่งเชื้อชาติ การว่าจ้าง มีกระบวนการที่ซับซ้อนโดยที่ผุ้รับจ้างไม่รู้ถึงผู้รับจ้างต้นทางที่แท้จริง
- กระบวนการระหว่งประเทศในเรื่่องยาเสพติดที่ความล่าช้า เนื่องจากข้อจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องพยานหลักฐานและนโยบายของแต่ละประเทศในการให้ความร่วมมือค้นหาพยานหลักฐาน
- ยังประสบปัญหารเรื่องขอบเขตอำนาจในการจับกุมและดำเนินคดีผุ้กระทำผิดข้ามพรมแดน
ด้วยเตหุนี้เอง หากประเทศอาเซียนต้องการแก้ไขปัญหารอาชญากรรมข้ามชาติในรูปแบบยาเสพติดอย่งจริงจังแล้ว จำเป้นจะต้องร่วมมือกันในการวางกรอบกฎหมายระหว่างประเทศให้มีความรัดกุมและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การจัดการกับปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติในรูปแบบยาเสพติดมีความคล่องตัวมากขึ้น เพื่อให้คาดหวังได้ว่าการเป็นอาเวียนที่ปลอดยาเสพติดใน พงศ. 2558 เป็นความฝันที่ใกล้ความจริงมากยิ่งขึ้นthailand.prd.go.th/1700/ewt/aseanthai/ewt_news.php?nid=4531&filename=index
-
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น