Hmong- Mien

ปฏิทิน ม้ง
            ตระกูลภาษาม้ง-เมี่ยน หรือ แม้ว-เย้า เป็นตระกูลภาษาเล็กๆ ที่ใช้กันทางตอนใต้ของประเทศจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใช้พุดกันในแถบภูเขาสูงตอนใต้ของจีน เช่น มณฑล กุ้ยโจว หูหนาน ยูนนาน เสฉวน กวางสี และมณฑลหูเป่ย ที่เรียกกันว่า ชาวเขา ในขณะที่ชาวจีนฮั่นตั้งถ่ินฐานอยู่ตามลุ่มแม่น้ำ เมื่อ 300-400 ปีที่ผ่านมา ชาวม้งและเมียนจำนวนมากได้อพยพเข้ามาตั้งถ่ินฐานในประเทศไทย ลาว เวียดนาม และพม่าและเนื่องจากสงครามอินโดจีน ชาวม้งบางส่วนได้ลี้ภัยจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศ
         ม้ง หมายถึง อิสระชน เดิมอาศัยอยุ่ในประเทศจีน ต่อมาชาวจีนเข้ามาปราบปราม เป็นเหตุให้อพยพลงมาถึงตอนใต้ของจีน และเขตอินโดจีน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และตอนเหนือของประเทศไทย ประมาณ พงศ. 2400 โดยมีสองกลุ่มได้แก่ ม้งน้ำเงินและม้งขาว ไม่ชอบให้เรีกว่าแม้ว โดยถือว่าเป็นการดุถูกเหยียดหยาม ประชากรของม้งในประเทศไทย มีมากเป็นอันดับ 2 รองจากกะเหรี่ยง ตั้งถิ่นฐานอยุ่ตามภูเขาสูง หรือที่ราบเชิงเขาในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ ลำปาง กำแพงเพชร เลย พิษณุโลก เพชรบูรณื สุโขทัย และตาก
        ในอดีม้งอาศัอยอยู่ตามภูเขาอยุ่ตามธรรมชาติ ม้งต้องตรากตรำทำงานหนักอยู่แต่ในไร่เท่านั้น ทำให้ม้งไม่มีเวลาที่จะดุแลตัวเองและครอบครัว ดังนั้นชีวิตความเป้ฯอยู่ของม้งจึงเป้นแบบเรียบง่าย เพราะคลุกคลีกับธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่เท่านั้น ชีวิตประจำวันของม้งคือ จะทำไร่ ทำสวน และหารายได้เล็กน้อยเพื่อจุนเจือครอบครัว ส่วนเรื่องอาหารก็จะเป็นเรื่องเรียบง่าย
         ในการกินอาหาร ม้งนิยมใช้ตะเกียบซึ่งรับมาจากธรรมเนียมจีน ส่วนเหล้าจะนิยมดื่มกันในงานเลื้องต่างๆ เช่น งานแต่างงาน งานเลี้ยงญาติ อาจเป็นญาติของภรรยาที่มาเยี่ยม ฝ่ายฐาติทางสามีจะต้องรินแก้วเหล้าแจก ครั้งละ 2 แก้ว โดยเชื่อกันว่าจะทำให้คู่สามีภรรยาอยุ่ด้วยกันตลอดไป ก่อนจะดือมเหล้าแต่ละคนจะพูดว่า "ผมจะดื่มเพื่อทุกคน" และจะต้องคว่ำจอก หรือคว่ำแก้วเมื่อหมดแล้ว ม้งจะนิยมดื่มเหล้าครั้งเดียวหมดแก้ว มีการดื่มซ้ำวนเวียนหลายคร้ง ผุ้ที่มิใช้นักอื่มย่อมจะทนไม่ได้อาจของใหบุคคลอื่นช่วยดื่มแทนก็ได้ เหล้าจะทำกันเองในปมู่บ้าน ซึ่งทำจากข้าวโพด ข้าว หรือข้าวสาลี ม้งให้เกียรติแก่ผุ้ชาย เพราะฉะนั้นผุ้หญิงจึงรับประทานอาหาร หลังผุ้ชายเสมอ การประกอบอาหารของม้งสวนใหญ่จะเป้ฯในลัการะการต้ม ทอด และ ม้งยังมีความสามารถในการถนอมอาหาร ึ่งในการถนอมอาหารสามารถถนอมได้หลายแบบ เช่น การหมัก การดอง...
       
 ภาษาม้ง อยุ่ในตระกูลม้ง-เมี่ยน หรือ แม้ว-เย้า ใช้กันในชาวม้งในเอ่เซียตะวันออกเแียงใต้ และบางส่วนของจีนจัดเป็นภาษาคำโดด โดยหนึงคำมีเสียงพยั๙ญชนะต้น สระ และวรรณยุกต์ ไม่มีเสียงตัวสะกด มีวรรณยุกต์สนธิหรือการผสมกันของเสียงวรรณยุกต์เมื่อนำคำมาเรียงต่อกันเป็น ประโยค ในประเทศไทยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม
         ภาษาม้งเขียว หรือ มั้งจั้ว ภาษาม้งเขียว หรือ ภาษาม้งจั็ว ภาษาม้งตะวันตก มีผุ้พูดกว่าหนึ่งล้านสองแสนคน พบในจีน หนึ่งล้านคน ซึ่งรวมชาวบูนูที่เป็นชนกลุ่มเย้าแต่พูดภาษานี้เป็นภาษาแม่ 29,000 คนเข้าไปด้วย ในบริเวณกุ้ยโตจว เสฉวน และยูนนาน พบในลาว 145,000 คน (พ.ศ. 2538) ทางภาคเหนือ พบในพม่า 10,000 คน พบในไทย 33,000 คน ในจัวหวัดตาก น่าน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ เชียงราย พะเยา เลย สุโขทัย แพร่ กำแพลเพชร อุทัยธานี พบในเวียดนาม ทางภาคเหนือ พบได้บ้างในจังหวัดทางภาคใต้เช่น จังหวัดดักสัก มีผุ้พูดภาษานี้ในฝรั่งเศสและสหรัฐอ้วย
       
  ภาษาม้งขาว หรือ ม้งเต๊อว ภาษาม้งขาว หรือ ภาษาม้งเด็อว มีผุ้พูดทั้งหมด 514,895 คน พบในจี สองแสนสามหมื่นคน  ทางตะวันตกของกุ้งโจว ทางต้ของเสฉวน และยูนนาน พบในลาว หนึ่งแสนหกพันคน ทางภาคเหนือ พบในไทย สามหมื่นสองพันคน ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงราย น่าน พิษณุโลก เลย สุโขทัย กำแพงเพชร แพร่ พระเยา อุตรดิตุถ์ ลำปาง ในเวียดนามพบทางภาคเหนือพบได้บ้างในจังหวัดทางภาคใต้เช่น จังหวัดดักลัก มีผุ้พุดภาษานี้ในฝรั้งเศส และสหรัฐอเมริกาด้วย..
            เมี่ยน (เย้า ) ปรากฎครั้งแรกในเอกสารบันทักของจีน สมัยราชวงศืถัง โดยปรากฎในชื่อ ม่อ เย้า มีความหมายว่าไม่อยู่ใต้อำนาจของผุ้ใด เล่ากันว่า เมื่อประมาณ 2000 กว่าปีมาแล้วบรรพชน ได้ตั้งถิ่นฐานอยุ่ในที่ราบรอบทะเลสาปตงถิง แถบแม่น้ำแยงซี ยอมอ่อนน้อมให้ชนชาติผุ้ปกครองรัฐ และไม่ยินยอมอยุ่ภายใต้การบังคับกดขี่ของรัฐ จึงได้ทำการอพยพเข้าไปใในป่าลึกบนภูเขาสูง ได้ตั้งถิ่นฐานสร้างบ้านด้วยมือของเขาเอง เพื่อปกป้องเสรีภาพจึงถูกขนานนามว่า ม่อ เย้า ซึ่ง เหยา ซี เหลียน ได้พันทึกไว้ในเหลียงซูต่อมาในสมัยราชวงศ์ซ่งคำเรียกนี้ถูกยกเลิกไปเหลือแต่คำว่า "เย้า" เท่านั้น..
         ชาวเมี่ยนมีอิสระเสรีในการเลือกคู่ครอง โดยไม่มีการบังคับกัน เมี่ยนมีประเพณีเที่ยวาว ซึ่งได้ยึดถอืปฏิบัติมาจนทุกวนนี การเที่ยว สาวนั้นไม่ได้มีเพียงการพูดจาเกี่้ยวพาราสีเท่านั้น แต่เมื่อหญิงสาวชาวเมี่ยนพอใจหนุ่มใดเป็นพิเศษ ก็อาจจะร่วมหลับนอนกับชายคนนั้นได้ภายในห้องนอนของตนเอง
          ครอบครัวเมี่ยน มักไม่ค่อยมีการหย่าร้อง (การมีชู้เป็นเรื่องน่าอับอายสำหรับเมี่ยน) ผุ้ชายชาวเมี่ยนมีศักดิ์เหนือกว่าสตรีและเด็กในครอบครัว เวลากินอาหาร จะจัดให้ผุ้ชายก่อน สตรีและเด็กจะมากินที่หลัง ภรรยาต้องเคารพสามี ตื่นก่อนนอนที่หลัง
       
ลักษณะบ้านเรือน นิยมตั้งหมุ่บ้านบนไหล่เขา บริเวณต้นน้ำลำธารสุงประมาณ สามถึงสามพันห้าร้อยฟุต ซึ่งอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าหมุ้บ้านม้งและลีซอ หมุ่บ้านเมี่ยนมีขนาดเล็กประมาณ 15 หลังคาเรือน มีการโยกย้ายหมู่บ้านบ่อยๆ ในช่วงเวลา 10-15 ปี แต่บางแห่งตั้งอยู่อย่างถาวร..
          ภาษาเมี่ยน มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับภาษาม้งมากว่าภาษาชาวเขาอื่นๆ ภาษาเขียน เมี่ยนได้รับอิทธิพบจากจีน เป็นคำเดียวโดด ๆ ไม่มีภาาาเขียนเป็ฯของตนเองเมี่ยนที่อยุ่ในเมืองไทยส่วนใหญพุดภาษาไทยเหนือหรือคำเมืองพอรู้เรื่องบางคนพุดภาษาไทยกลาางได้ ใช้ภาษาฮั่นเป็นตัวอักษรในภาษาเขียน แต่รูปแบบต่างจากภาษาฮั่นมาตรฐาน คนที่มีอายุพูดภาษาจีนกลางและจีนฮ่อได้ ผุ้ชายชาวเมี่ยนมีคำนำหน้าว่า "เลา" ส่วนผุ้หญิงมีคำนำหน้าว่า "อ่ำ" บุตรชายคนแรกเรียก ต่อนโห หรือ ต่อนเก๊า ลูกสาวคนแรกเรียก อ่ำม๋วย ...

                  - www.sawadee.co.th/thailand/hilltribes/hmong.html
                  - hmong21.net/hmong&moob/hm0010.php#.WYW-TITyjIW
                  - th.wikipedia.org/wiki/ตระกูลภาษาม้ง-เมี่ยน
                  - www.openbase.in.th/node/1012
                  - prezi.com/wgesocpzwbg-/presentation/



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)