Lifestyle ASEAN (Myenmar)

            ชาวพม่าเป็นคนชอบสังคม ชอบพบปะสังสรรค์ แม้ในเช้าวันอาทิตย์ที่ฝนตกหนัก ชาวบ้านก็ยังออกจากบ้านมาพบปะพูดคุยกัน เกี่ยวกับร้านอาหาางพม่ามีมุมมองที่น่าสนใจว่า ยิ่งเก้าอี้สูงอาหาร ก็ยิ่งแพง หากไปที่พม่าเราจะเห็นร้านอาหารของชาวบ้านร้านข้างทางที่มีเก้าอี้เตี้ยๆ สไกรับนั่งทานอาหาร พม่ากับเวียดนามมีมุมมองเรืองนี้คล้ายกัน คือ ยิ่งเกาอี้ต่ำ อาหารยิ่งถูก ยิ่งเก้าอี้สูงอาหารยิ่งแพง
            ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีกำลังซื้อไม่สูงนัก การตัดสินสใจซื้อเน้นเหลือกจากประทโยชน ของสินค้าเป็นสำคัญ มักซื้อสินค้าเท่าที่จำเป็ฯ พิจารณาเรื่องราคาเป็นหลัก สินค้าประเภทเดี่ยวกันหากยี่ห้อไหนราคาถูกกว่าก็จะซื้อยี่ห้อหนั้น สินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะไทยและจีนมีอิทธิพลค่อนข้างมากในตลาดพม่า สินค้าอุปโภคบริโภคในพม่ายังมีให้เลือกไม่หลากหลายนักประชาชนส่งนใหญ่ยังซื้อเฉพาะสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน สวนสินค้าฟุ่มเฟื่อยหรือสิ่งอำนวนความสะดวกได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่มผุ้มีรายได้สูงจำนวนไม่มาก ในกลุ่มนักการเมือง ทหาร นักธุรกิจ หรือข้าราชการระดับสูง..(www.rd.go.th/..ไลฟ์สไตล์ รสนิยม และวัฒนธรรมของคนปรเทศต่างๆ ในอาเซียน")
                ประชากรส่วนใหญ่ในประเทศพม่านับถือศาสนาพุทธ 93% ศาสนาคริสต์ 4% อื่นๆ 3% เชื่อกันว่าพม่าได้รับอิทธิพลพุทธศาสนามาในสมัยพรเจ้ากนิษกมหาราช เป็นกษัตริย์ปกครองประเทศอินเดีย ต่อมาประมาณ ราวพุทธศตวรรษที่ 6-7 พุทธศาสนามีรากฐานในเอเชียตะวันออกเฉียงมต้เป็นเวลานับพันปี พระเจ้าอนระทามังช่อ หรือพระเจ้าอนุรุทธ ทรงเป็ฯกษัตรยิ์พม่าที่เคารพนับถือพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก
พระองค์ได้สถาปนาเมืองปาฆัน โดยสมมติให้เป็นเมืองพระพุทธนคร พร้อมกับสร้างวิหาร พระสถูปเจดีย์อย่างวิจิตรงดงาม รวมจำนวน พันแก่ง ประดิษฐานถี่ห่างจากกันแทบเต็มเนื้องที่เมืองปาฆัน ในกรุงย่างกุ้งมีพระเจดีย์ชะเวดากอง สร้างไว้บนยอดเขาเตี้ย แต่นับว่าเป้นเจดีขนาดใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งของพุทธอาณาจักร ฝีมือของช่างชั้นเอก  จากการสำรวจพระเณรในประเทศพม่ามีกว่า สี่แสนรูป มากกว่าประเทศไทย หนึงแสนรูป ปัจจุบันพม่าจึงนับเป็นแหล่งหรือศูนย์กลางพระพุทธศาสนาประเทศหนึ่งในเอชีย
       ชาวพม่านิยมรับประทานอาหารแบบล้อมวงโดยใช้ดต็ะขนาดเล็กหรือบนเสือไม่ไผ่ อาหารหนึ่งมื้อประกอบด้วยข้าว แกงปลาน้ำจืด ปลาเค็มหรือปลาแห้ง จะตักอาหารให้ผุ้สูงอายุในวงก่อน ปกติรับประทานด้วยตะเกียบโดยได้รับอิทธิพลจากประเทศจีน ซึงชาวพม่านิยมใช้ตะเดียบมากตะเดียบี่ชาวพม่าใช้จะเรียกว่า ทู่ว์ ใช้สำหรับรับประทานอาหารปกติและอาหารประเภทเส้น หรือไม่ก็จะใช้ช้อน ส้อมเพื่อความสะดวกรวดเร็ว และรับประทานด้วยมือสำหรับผลไม่แล้ผัก สวนเครื่องดื่มที่นิยมเป็นชาท้งแบบร้อนและเย็น อาหารฉิ่นสวนใหญ่เป็นข้าว ข้าวโพด ข้าวฟ่าง นิยมปรุงด้วยการต้มมากกว่าการทอด

           หล่าเพ็ด เป็นหนึ่งในเมนูขึ้นชื่อของพม่า วิะีทำคือนำใบชาหมักมาทานกับเครื่องเคียง อาทิ กระเทียมเจียว ถั่วชนิดต่างๆ กุ้งแห้ง งาคั่ว ขิง มะพร้าวคั่วเหมือนกับเมี่ยงคำของไทย แต่หล่เพ็ดจะทานรวมกันหมดเลย ไม่ได้ นำอะไรมาห่อเป็นคำๆ แมนูอาหารชนิดนี้ขาดไม่ได้ในโอกาสพิเศษหรือเทศกาลสำคัญๆ ของประเทศพม่า ถึงขนาดพูดกันว่างานเลื้ยงใดไม่มีหล่าเพ็ดถือว่างานนั้นไม่สมบูรณ์เลยที่เดียว
           โมฮิงจา หรือ ขนมจีนพม่า หน้าตาเหมือนกับขนมจีนน้ำยากะทิของไทย รสชาติก็คล้าย เพียงแต่ใช้เส้นก๋วยเตี๋ยว เสิร์ฟพร้อมกับน้ำซุปสมุนไพร ทานคู่กับปลีหล้าวหั่นฝอยแก้เลี่ยน เป็นอาหารที่คนพม่านิยมทานกันในตอนเช้า แต่ก็มีขายในช่วงเวลากลางวันและกลางคืนด้วย
         
อาหารไม้เสียบ เป็นสตรีทฟู้ดยอดนิยมของชาวพม่าและนักท่องเที่ยว คล้ายกับร้านลูกชิ้นบ้านเรา แต่อาหารไม้เสียบของพม่าจะไม่มีลูกชิ้นกลมๆ เน้นเป็นเนื้อสัตว์ต่างๆ เสียบไม้ มีทั้งหมู ไก่ กุ้ง ปลาหมึก หอย และเครื่องในสัตว์ นำมาย่างแล้วทานกับน้ำจิ้ม...(gothailandgoasean.tourismthailand.org/..อาหารพม่า-อร่อยไปกับเมนูอาหารเอเชียผสมเครื่องเทศ)
           ร้านอาหารในย่างกุ้ง อาหารอร่อยหากินง่าย แต่ราคาสวนทางกับรายได้ ราคาเฉลี่ยมื้อละ 200-300 บาทต่อคน ร้านที่ได้รับความนิยมในย่างกุ้งอาทิ
           ร้าน Feel Restaurant ร้านนี้เป็นร้านอาหารพม่า พื้นเมือง ชือดัง อารมณ์แบบข้าวราดแกง ในร้านจะมีหลากหลาย มีทั้งพวกก๋วยเตี๋ยวพม่า ฮมฮิงก่า และอื่นๆ ที่อร่อยเหมือนกัน สั่งด้วยการเลือกอาหารเหมือนร้านชข้าวแกง ทุกโต๊ะจะมีน้ำพริกมาให้ฟรี และข้าวหนึ่งโถ ของหวานจะต้องเดินไปสั่งหน้าร้าน เคล้ากับขนมหม้อแกง
           ร้านปิ้งย่าง บาร์บีคิว ย่าน ไชน่า ทาวน์ เมืองยางกุ้งเค้าอุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์ทะเล อาทิ ปลา กุ้ง ปลาหมึง สดไม่มีคาว เลือกของสดให้เขานำไปปิ้ง ย่าง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะสั่งของย่างพร้อมกับ เมียนม่าร์เบียร์ ซึ่งในย่านไชน่า ทาวน์นี้มีหลายร้านให้เลือก
           ฮอต พอต ชื่อดัง Shwe Kwuang Hot Pot ร้านนี้ดังมาก ฮิตมาก เลย์เอาท์อารมณ์เหมือนหมู
กะทะแต่หม้อ คือ ชามอ่าง กะละมัง และมีของให้เลื้อกอีกมากมาย มีหอยทาก หมูสไลด์ น้ำซุปจะเป็นทั้งซุปไก่ และซุปหมู เผ็ดกับไม่เผ็ด่...( pantip.com ่รีวิว ร้านอาหาร ที่พม่า...)
          ทางด้านการกีฬา ชินลง หรือ ชินโลน เป็นกีฬาโบราณของประเทศพม่า จัดเป็นกีฬาตะกร้อ ชนิดหนึ่งที่มีวัฒนะรรมร่วมกันในภาคพื้นอุษาคเนย์มาหลายร้อยปี ก่อนจะปรบเปลี่ยนวิะีการเล่นและชื่อเรียกไปตามศิลปะและวัฒนธรรมพื้นถิ่นของแต่ละประเทศ เช่น "เซปัก-รากา ในมาเลเซียน สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย", "สีปา ในฟิลิปปินส์", ตะกร้อในลาว", "ตระกร้อวง ในไทย" และได้มีการ
พัฒนามาเป็นเกมส์การแข่งขันเล่นข้ามตาข่ายเรียก "เซปักตะกร้อ"
             ชินลง มีความคล้ายกับ ตะกร้อวงลอดบ่วงของไทย แต่จะมีตัวเอก หรือเรยกว่า "มินตา" เข้ามาเล่นโชว์ลีลากลางวง โดยมีหน้าที่หลักในการคอนโทรเกมส์ ศิลปะการเล่นและท่วงท่าลีลาในแต่ละท่าต้องผ่านการฝึกซ้อมอย่างดี แฝงด้วยทักษะ ความสมดุล และความสามัคคีของผุ้เล่นทุกคนในทีม ที่จะคอยผลัดกันมาเป็น "มินตา" โดยท่าของชินลงนั้นมีมากกว่า 200 ท่า.(www.intapro.org/.. รู้จัก-ชินลง-กีฬาตะกร้อ-ประจำชาติพม่า)
           
การแต่งกาย ชาวพม่าทั้งหญิงและชายนิยมนุ่งโสร่ง ที่เรียกว่า "ลองยี" ซึงมีทั้งผ้าฝ้ายและไหมที่มีสีสด ของผู้หญิงจะมีลายเชิงด้านล่างและมีลวดลายเล็กๆ กระจายทั่ว ผืนผ้า ลวดลายของแต่ละท้องถ่ิ่นจะต่างกัน ผ้าที่ทอมาจากเมืองอมรปุระเป็นลวดลายดอกไม้ เครือไม้ หรือเป็นดอกเป็นลายตามขวาง ไม่นิยมใข้เข็มขัด สวมเสื้อตัวสั้น คอกลม ผ่าอกติดกระดุม 5 เม็ด แขนกระบอกยาวจรดข้อมือบางครั้งเป็นแขนกระบอกสั้น..สวดรองเท้าคีบทั้งชายและหญิง ผู้หญิงจะเหล้าผมสูง บางที่ก็ปล่อยชายห้อยลงมาไว้ทางซ้ายบ้างขวางบ้าง มีดอกไม่แซมผม เครื่องประดับ  นิยมหิน และพลอยที่มีค่า
            เครื่องแต่งกาย นุ่งโสร่งเช่นเดี่ยวกับหญิงแต่สีไม่ฉุดฉาด เป็นลายตาราง ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง หรือเป็นลายทางยาวบ้าง โดยทั่วไปใส่เสื้อขาวจะสวมเสื้อคล้ายเนื้อจีนแขนยาว ถึงข้อมือ แบบหนึ่งเรยกว่า "กุยตั้ง"เป็นเสื้อชายสั้นๆ ติดดุมถงแบบจีนป้ายมาข้าง ๆ อีกแบบเรียกว่า "กุยเฮง"ตัวยาวถึงสะโพก และติดกระดุมตั้งแต่คอตรงมาจดชายเสื้อใช้สีสุภาพ  ผมตัดสัน ไม่นิยมสวมหมวก หรือโพกศีรษะตามประเพณีเดิม เมื่อมีพิธีจะมีผ้าหรือแพรโพกศีรษะทำเป็นกระจุกปล่อยชายท้ิงไว้ทางด้านขวา นิยมใช้สีชมพู..(www.baqanjomyut.com. การแต่งกายชาวเอชีย, สหภาพพม่า)
             ในปัจจุบัน กลุ่มวัยรุ่นในเมียนมาร์เร่ิมหันมาสวมใส่เสื้อผ้า และปรับเปลี่ยนการแต่างกายให้สอดคล้องกับแฟชั่นตะวันตกมากขึ้น หลังจากทีก่อนหน้านี้ การตามแฟชั่นตะวันตกมากเกินไป ซึ่งรวมถึงการสวนกระโปรงสั้นของสตรี มักถูกมองเป็นเรื่องไม่ในสังคม แม่ค้าขายเสื้อผ้าในนครย่างกุ้ง กล่าวยกตัวอย่างการแต่งกายของนาง ออง ซาน ซูจี ว่าเธอเคยชอบใส่ชุดประจำชาติที่มีแขนเสื้อยาว แต่ปัจจุบัน เธอหันมาใส่เสื้อผ้าที่เปิดเผยเนื้อหนังมังสา และตามสมัยนิยมมากขึ้น
             ขณะที่ล่าสุด มีรายงานว่า นครย่างกุ้งมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เปิดใหม่อยางน้อย 5 แห่ง เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยห้างดังกล่าว มีสินค้าแบรนด์เนมจากต่างชาติวางขายให้กับวัยรุ่นชาวเมียนมาร์เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ปัจจุบัน รัฐบาลเมียนมาร์ได้เดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างประเทศในหลายด้าน รวมทั้งการเปิดประเทศ เพื่อต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศ ส่งผลให้ชาวเมียนมาร์มีโอกาสเลือกสินค้าที่มาจากต่างชาติ..(www.dek-d.com..โอ้โห..แฟชั่นของวัยรุ่นพม่า )
         
เนื่องจากพม่าเพิ่งเปิดประเทศไนท์ไลฟ์ในพม่าจึงไม่โดดเด่น กิจกรรยามค่ำคืน ในพม่า Sarkies Bar at The Strand Hotel เป็นบาร์ที่ตกแต่างอย่างสวยงาน ในโรงแรมสแตรนด์คลาดสสิก ด้วยไม้อย่างสวยงาม เพดานสูง ผ่านคลายด้วยเฟอร์นิเอร์หวาย เครื่องดื่มเป็นเบียร์เย็นๆ ไวน์ และเครื่องดื่มค็อกเทลที่โดดเด่น ด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง กล่าวอีกนัยหนึ่งSarkie เป็นโอเอซิสในใจกลางเมืองยางกุ่ง..

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)