Thailand and ASEAN Connect

          เมื่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้อนุมัติร่างยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย พงศ. 2558-2560 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเร่งเดินหน้ายุธศาสตร์เขตพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยว โยใช้กลยุทธ์อาเซียนคอนเน็ก เชื่อมโยง 5 ประเทศ สร้างท่องเที่ยวคุณภาพในแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ในเเรื่องนี้ นางกอบกาญจน์ รัฒนวรางกุร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่ว่า ได้เร่งให้ทุกหน่วยงานเดินหน้าอย่างเต็มที่เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ สร้างรายได้แก่ประเทศอย่างยั่งยืน โดยจะเป็นการพัฒนาทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และสิ่งแวดล้อมในการนำไปสู่การพัฒนาที่สมดุล ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ตามเป้าหมาย
          ขณะที่อาเซียนคอนเน็กซึ่งเป็นกลยุทธ์หนึ่งในแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย พ.ศ. 2558-2560 ได้ดำเนินการไปแล้วในหลายส่วน เช่น การประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ย ACMECS ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศราฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง เป้นต้น ทั้งนี้ นางกอบกาญจน์ กล่าวว่าการท่องเทียวแบบเขตพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวจะเป็นทิศทางอนาคตของการท่องเที่ยวไทย เพราะอารยธรรมนกลุ่มล้านนาอีสานใต้และความเป็นเอกลักษณ์ของอันดามัน สามารถพัฒนาสินค้าท่องเทียวตามความสนใจเฉพาะไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้ตรงกลุ่มนิชมาร์เก็ต ไม่ว่าจะเป็นการท่องเทียวเชิงสุขภาพ หรือเมดิคัดแลนด์เวลเนส และท่องเที่ยวเชิงกีฬา หรือการท่องเที่ยวเพื่อากรอนุรักษ์ทางทะเลและป่าเขามรดกโลก เพื่อนไปสู่การเพ่ิมเรื่องเล่าแชร์ส่งต่อความประทับใจในการต่อยอดการทำการตลาดบนโลกออนไลน์แบบดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง เนื่องจากรูปแบบการท่องเที่ยว และเพ่ิมการใช้จ่าย พักผ่านแบบอยู่ยาวมากขึ้น จะช่วยทำให้เกิดการกระจายรายได้และเม็ดเงินลงสู่ประชาชนในพื้ที่ได้เป็นอย่างดี
          สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงวันที่ 1-31 กรกฎาคม 2558 มีจำนวน 2,6xx,xxx คน ขยายตัว 37.99% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยักที่องเทียว 2 อันดับแรกคือ จีนและมาเลเซีย โดยสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 - กรกฎาคม 2558 มีรายได้จากการท่องเที่ยแล้ว 1.18 ล้านล้านบาท ขยายตัว 23.12% จากลวงเลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
         
ด้าน นายอารีพงศ์ ภูชอุ่ม ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวถึงการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยว ACMECS กลุ่มลุ่มแม่น้ำอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ซึ่งประกอบด้วยประเทศที่มีชายแดนติดกันได้แก่เมียนมา กัมพูชา-ลาว-ไทย-เวียดนาม เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวหให้มีคุณภาพ ให้เชื่อมโยง และเติบโตยั่งยืน ว่า จากการ่่วมประชุมรัฐมนตรีการท่องเที่ยว ครั้งที่ 2 ทีประเทศเมียนมาที่ผ่านมามีสาระสำคัญด้วยกัน 7 เรื่อง ในการวางแผนทำงานระหว่างปี 2016-2018 โดยมีเป้หาหมายเดียวกันคือมุ่งเน้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ 7 ด้าน เป็นสำคัญ โดย
          - เป็นการส่งเสริมการตลาดด้านการท่องเที่ย 5 ประเทศ 1 จุดหมายปลายทาง มีผู้รับผิดชอบคือ ไทย และเวียดนาม
          - เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวโดยกัมพูชา
          - การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการท่องเที่ยวมีเจ้าภาพ คือ ประเทศเมียนมา เป้ผุ้ดำเนินการ
          - การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวมีเจ้าภพ คือ ประเทศเมียนมา เป้นผู้ดำเนินการ
          - การพัฒนาคุณภาพ มีประเทศไทยและเวียดนามร่วมกันวางแผน
          - ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัย มีประเทศเวียดนามเป็นเจ้าภาพ และ
          - การให้เอกชนมีส่วนร่วม ีประเทศลาวและเวียนดนามนำไปวางแผนกลยุทธ์
          อย่างไรก็ตาม นายอารีพงศ์ยังกล่วต่อว่า ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว 5 ประเทศอาเวียนถือเป้ฯจุดเริ่มต้นที่ชัดเจนในการทำงานของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีากรศึกาาข้อมูลระดับลึกลงไปในแต่ละจังหวัด เืพ่อสามารถกำหนดแนวทางและยุทธศาสต์การทำงานให้เมาะกับแต่ละพื้ที่ พร้อมกับทำความเข้าใจกับประเทศเพื่อบ้านเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่อยู่บนพื้นฐานแวคิดเดียวกัน
           "การเดินหน้าด้านการท่องเที่ยวในกลุ่มอาเซียนเพื่อให้พัฒนาไปพร้อมๆ กัน จะต้องเร่ิมที่ 5
ประเทศ 1 จุดหมายปลายทาง ในการดึงนักท่องเที่ยวจรากทั่วโลกเข้ามใน 5 ประเทศ ให้มากขึ้นอาจจะต้องมีการเชื่อมโยด้านท่องเที่ยวทั้ง 5 ประทเศ ให้เป็นรูปธรรมากขึ้นด้วยการเด็บข้อมูลด้านการท่องเที่ยว พัฒนาเรื่องของแหล่งท่องเที่ยว ท่จะต้องมีมาตรฐานในการดำเนินการวมไปถึงการพัฒนาบุคลากร รวมไปถึงเรื่องความปลอดภัยที่จะต้องยกระดับในเรื่องดังกล่าวสูมาตรฐ,าานสากล" นายอารีพงศ์ กล่าว
             อย่างไรก็ตาม นายอารีพงศ์ ยังกล่าวต่อวา เมื่อกระทรวงท่องเทยวรวมกับหน่วยงานต่างๆ มีความชัดเจนในเรื่องของการทำงานมากขึ้น สิ่งสำคัญที่จะตามคือกรสร้างโลจิสติก การคมนาคมที่ะดวกมากขึ้นโดยจะต้องมีความร่วมมือในการดึงนักลงทุนของแต่ละประเทศเข้ามาลงทุน เพื่อทำให้ภาคเอกชนเกิดความชัดเจนในการทำงานตามรูปแบบตามยุทธศาสตร์การท่องเทียวไทย พ.ศ. 2558-2560 ต่อไป
            ขณะที่ นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธนอุตสาหกรรมท่องเทียวแห่งประเทศไทย หรือ สทท. กล่าวถึงยุทธศาสตร์การท่องเทียว 5 ประเทศอาเซียน ว่าแนวทางดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดีเนื่องจากจะทำให้เกิดความร่วมมือทางต้านการตลาด การเชื่อมฌยงเตรื่อข่ายด้านการท่องเที่ยว ดโยเฉพาะเมื่อทางภาครัฐเป็นผุ้ชับเคลื่อนก็ํจะทำให้ทางภาคเอกชนของไทยสามารถประสานการทำงานกับทางผุ้ประกอบการด้วยกันในกลุ่มอาเวียนเชื่อมโยงการตลาดได้สะดวกขึ้นเช่น การทำแ็กเกจการท่องเที่ยวร่วมกัน ในภูมิภาคนี และแนวคิดทิศทางในการพัฒนาการท่องเที่ยวด่าง ๆ เพื่อเป้ฯประโยชน์ระหว่าประเทศมาชิกด้วยกัน เป็นต้น
            "เอกชนสามารถผลักดันและสอดรับกับยุทธศาสตร์ดังกล่วด้วยการขยายฐานทางการตลาดให้กว้างขึ้น จากเดิมที่นำมาตลอดเมื่อมีภาครัฐเข้ามาขับเคลือนก็จะทำห้การทำงานกระชับและเห็นผลมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้นักท่องเทียวที่เดินทางในภูมิภาคนี้ใช้ประเทศไทยเป้ฯฮับก่อนจะเดินทางไปสู่แหล่งท่องเที่ยวในปะเทศต่างๆ ซึ่งจะทำให้ขยายวันพักและสร้งรายได้เข้ามาในภุมิภาคนี้มากขึ้น อีกทั้งยังเป้ฯการเพ่ิมความหลากหลายของเเหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย" นาสยอิทธิฤทธิ์ กล่าว
              อย่างไรก็ตา นายอิทธิฤทธิ์ กล่าวต่อว่า เลานี้มีเรื่องเดียวที่เป็นกังวลคือการอำนวยความสะดวกใเรื่องการผ่านแดนทั้งขาเข้าและขาออกจะต้งอมีความชัดเจน ทั้งในเรื่องสิทธิหรือข้อจำกัดต่างๆ ซึ่งจะต้องดำเนินการออกมาเป็นรูปธรรมชัดเจนทั้ง 5 ประเทศ นอกจากนี้ ทุุกแห่งน่าจะมีวามพร้อมเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงแหล่งท่องเทียวด้วย  www.aseanthai.net/ewt_news.php?nid=4418&filename=index
            "สมคิด" กดปุ่ม "อาเวียน คอนเนกต์" เชื่อมโยงการท่องเทียวในกลุ่มอาเซียน ร่วมมือกันรวย ดึงการบินไทย-ไทยสมายล์-แอร์เอเชียทำแพ็กเกจ แทนที่จะแข่งขันกันเอง โดยมี ททท.ช่วยทำตลาด ด้านผุว่าการททท.เผยตัวอย่างเส้นทางเชื่อมโยง 5 ประเทศสุดอเมซซิ่ง ตั้งแต่ไทย-เมียนม่า-ลาว-เวียดนาม-กัมพูชา
             นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว ร่วมกับนางกอบกาญจน์ วัมนวรางกุร รมว. การท่องเที่ยวและกีฬา นายยุทธศักดิ์ สภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ 3 สายการบิน ได้แก่ การบินไทย ไทยสมายล์ และไทยแอร์เอเชีว่า ผลการเติบโตของการท่องเที่ยว น่าประทับใจมากทั้งในเรื่องขงอปริมาณคนและรายได้ ถือว่าเป้นผลงานชิ้นโบลแดงขงอกระทรวงการท่องเที่ยและ ททท. แต่จากนี้ไปจะเน้นเรื่องการขับเคลื่อนการปฏิรูปท่องเที่ยวให้ยังยืนและดีกว่าเดิม
         
 ทั้งนี้ ได้ขอให้กาบินไทย ไทยสมายล์และไทยแอร์เอเชีย รวมทั้งสยการบินอื่นๆ รวมกันเป็นหมู่คณะ มานั่งประชุมกับ ททท. เพื่อออกแบบแพ็กเกจการท่องเที่ยวเชื่อมโยงในอาเว๊ยนหรืออาเว๊ยน คอนเนกต์ฺ ทั้งการเชื่อมโยงระหว่างเมืองต่อเมือง ระหวางอาเวีนด้วยกันเองและเชื่อมโยงนอกอาเวีน กับยิงตรงเข้มาสู่อาเวียนและกระจายเส้นทางออกไป เพื่อให้เกิดมิติตใหม่ของการท่องเที่ย โดย ทท. จะร่วมทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้ด้วย ซึ่งวิธีนี้จะดีกว่าที่แตละสายการบินจะแข่งขันกันเอง
           "ขณะนี้การท่องเที่ยวภายในอาเวียนโตขึ้นมาก ทั้งในอาเวียนด้วยกันเองและจากต่างปรเทศที่ต้องการเข้ามาเที่ยวในอาเวียน แต่ละประเทศมีจุดเด่นของตัวเอง นดยบายของการท่องเที่ยวคือจะเน้นเรื่องของอาเวียนคอนเนกต์ ถ้าในระหว่งอาซียนด้วยกันเอง มีนักท่องเที่ยวจากเมืองอะไรบ้างในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี ได้แก่ กัมพูชา ลาวเมียนมาและวียดนาม รวมถึงมาเลเซีย"
           นายสมคิด กล่าววว่ การดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาแลบะไปเที่ยวต่อที่อื่นไม่ใช่แค่เมืองไทย อาจจะเป้ฯอีกหน่งหรือสองประเทศก็ได้ ตอนนี้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดิมจะเที่ยวของเขาเอง แต่จะกนีไปและด้วยแนวคิดนี้นักท่องเที่ยวจากกลุ่มยุโรปจะสนใจแน่นอน จะเป้นมิติใหม่ของการท่องเที่ยว โดยจะมีการโปรโมตไปก่อน และเกิดขึ้นใจครึงปีหลัง ซึ่งจะมีประโยชน์สูงมก เพราะกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวีที่ีการเติบโตที่สูงมากและมีคนที่มีรายได้เพเ่มขคึ้นมาก มีการเติบโตต่อเนื่อง 2-3 ปี คนเหล่านี้ยินดีที่จะม่เที่ยวเมืองไทยอยู่แล้ว แตต้องการให้มาประเทศไทยและไปประเทศอื่นด้วย จึงต้องมีสายการบินที่พร้อม
          ขณะที่นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า การหารือครั้งนี้จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยได้สมบูรณ์และช่วยสับสนุนให้นโยบายการท่องเที่ยวเชื่อมโยงในอาเวียนเป็นจริงได้ เพราะมีสายการบินหลายสายมาร่วมกันคิดแม้สายการบินนกแอร์ไม่ได้มา แต่ก็จะประสานให้มาร่วมดครงการนี้ด้วย นอกจากนี้คงต้องให้บริษทัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. มาร่วมดั้วย เพราะเป้ฯผุ้กำหนดตารางการบินของายการบินทุกสายที่บินเข้าประเทศไทย....www.thairath.co.th/content/578963
              เปิดกลยุทธ์ "กอบกาญจน์" ตอบจริตทัวริสต์ดันเป้า 2.4 ล้านล้านบาท         
              กอบกาญจน์ วัฒนาวรางกุร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้สัมภาษณ์ "ฐาน
เศรษฐกิจ" ว่าหลังจากเข้ารับตำแหน่งได้ร่วม 2 ปี ได้เดินหน้าทำยุทธศาสตร์ท่องเที่ยว วางรากฐานท่องเทียวไปสู่ตลาดนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ยึดหลักสร้างควาสามดุลรายได้กับสังคม-สิิ่งแวดล้อมและให้เกิดการกระจายรายได้สู่ขุมชน โดยมีการบุรณาการทำงานร่วกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง 10 กระทรวง
             แม้หลายคนมองว่าเป้นนามธรรมต่ก็ต้องทำ ขณะทนี้ไ้สะทอ้นออกมาในรูปของรายไ้ จะเห็นว่า การประเมินสถานการณ์ท่องเที่ยวไตรมาสแรกของปีนี้ พบว่ารายได้เพ่ิมข้น 18.2% เป็นไปตมที่รองนายกฯ สมคิดตั้งความหวังไว้ และเราพยายามไม่พูดถึงตัวเลโดยท่าน พล.อ,ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้านท่องเที่ยวบอกว่าให้เราเจียมตัวไว้ก่อน ซึ่งลึกๆ แล้วน่าจะทำให้ รวม. การท่องเที่ยวฯ กล่าวอย่างมั่นใจพร้อมระบุวา สถานการณ์ไตรมาสแรกคาดจะมีจำนวนนักท่องเที่ย 8.94 เพิ่มขึ้น 14.3% สร้างรายได้ 4.56 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.2% จากปีที่แล้ว
         ขณะนี้หลายคนไม่ห่วงวานักท่องเที่ยจะมไ่มา แต่ปัญหาอยู่ที่ว่ามาแล้วจะไปเที่ยวที่ไหนมากว่า เรื่องนี้ รมว. กอบกาญจน์ กล่าวว่า เราจึงต้องมี 12 เมืองห้ามพลาดและ 1 เมืองห้าพลด (พลัส) เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้แม้แต่ละเมืองจะรับได้ไม่มาก เพราะไม่ใช่ตลาด แมส แต่ท้องถ่ินต้องขยันให้การดูแลนักท่องเทียว บางเมืองอาจจะรับได้มาน้อยต่างกัน ..
        ... กลยุทธ์ รมว. การท่องเที่ยวฯ มองว่าตลาดอาเวียนถือเป็นตลาดใหญ่ที่ประเทศไทยต้องวางตำแหน่งให้เป็นศุนย์กลงหรือฮับของบภุมิภาคนี้เพราะถ้าเราไม่ทำอะไร ก็จะสเเสียตลาดนักท่องเทียวไปแน่นอน โดยตามสถิติ ปี 2554 มีนักท่องเที่ยวในและนอกอาเว๊ยนเดินทางท่่องเที่ยวรวมกัน 81 ล้านคน ปี 2557 เพิ่มมาเป็น 105 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากนอกกลุ่มอาเวียน 56 ล้านคน หรือ 53.2% ที่เหลือเป็นอาเซียนเที่ยวกันเอง 49 ล้านคนหรือ 46.8% ใรกสนชบสบจีงปรฃะ 10%
         "จากการพูดคุยกับ รมว. การท่องเที่ยวกัมพูชาเขาก็ตั้งความหวังว่านักท่องเที่ยวไทยก็คือเป้าหมายสำคัญของกัมพุชา ใครไม่มาไม่เป็นไรเขาขอให้คนไทยไปเทียวกัมพุชาก็พอ และต้องการให้นักลงทุนไทยเข้าไปสร้างโรงแรมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งเราต้องรีบดูลู่ทางการลงทุน ไม่เช่นนั้น ทุนจีน สิงคโปร์จะเข้าไปลงทุนหมด"
           
เรื่องนี้สะท้อนให้เห็ว่ามไ่ใช่ไทยที่หวังตลาดอาเซีนแต่ทุกประเทศก้หวังที่จะดึงนักท่องเที่ยวในภุมิภาคนี้เที่ยวกันเองส่วน 3 อันดับแรกนักท่องเที่ยวในอาเซียนที่มาไทยคือ มาเลเซีย ลาว และสิงคโปร์ เดินทางทางบก 53% จึงจำเป็นต้องพัฒนา ด่านชายแดนต่างๆ ขึ่นมารองรับ ขณะที่ผลสำรัวจพบว่านักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริบถึง 2.8 หมื่นบาท และนิยมมาซื้อเสื้อผ้าอันดับแรก รองลงม อาหารแห้งของขบเคี้ยว เครื่องหนัง อัญมนี เครื่องประดับ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
            ดังนั้นจึงเป็นโอกาสการขยายตลาดเพ่ิมเติมส่ิงที่เรากำลังเร่ิมทำ ต้องพยายามเป้นฮับให้มากขึ้นเรามีโลว์คอสต์แอร์ไลน์ที่จะทำให้เกิดเส้นทางเชื่อมโยงระหว่งเมืองหลักสู่เมืองหลัก เมือง
หลักสู่ท้องถ่ิน และท้องถ่ินสู่ท้องถ่ินเพื่อตันไทยเป็นฮับอย่งแท้จริงและได้มอบหมายใน้ ททท. ทำลิสต์เมืองต่างๆ เพื่อให้สายการบิน ไทยสมายล์ นกแอร์ แอร์เอเชีย เปิดเส้นทางบินใหม่ๆ รองรบนักท่องิที่ยวจากทั้งในอาเซียนและนอกอาเซียนให้มาไทยก่อนที่จะเดินทางไปประเทศอื่่นๆ ...www.thansettakij.com/content/39908
            ผนึกเส้รทาง CLMV เพื่อนบ้านดันไทยผุ้นำท่องเที่ยวโยอาเซียนคอนเนก
            ชาติอาเซียนหนุนไทยผุ้นำเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเื่อซีแอลเอ็มวีเวียดนามเปิดตัว สามเหลี่ยมมรดกโลกเที่ยว 3 ประเทศ
            นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผุ้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่ ขณะนี้นักท่องเที่ยวอาเวียน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา สปป.ลาว. เมียนมาร์ และเวียดนาม) ให้ไทยเป็นผุ้นำเปิดเส้นทางเชื่อมโยงการเดินทางท่องเที่ยในโครงการอาเซียน คอนเนอก ภายใต้แนวคิด ทูคันทรี วันเดสติเนชั่น ภายใต้ 3 กลยุทธ์ส่งเสริมหลัก
          ประกอบด้วย 1 สั่งการให้ทุกสำนักในประเทศซึ่งมีพื้นที่ท่องเที่ยวติดประเทศเพื่อบ้านเปิดเส้นทางท่องเที่ยวร่วมักน เช่น คุนหมิง ประเทศจีน เตรียมส่งสเริมการเดินทางพื้นที่สามาเหลี่ยมเศรษฐกิจ เชื่อมท่องเที่ยว สปป.ลาว ไทย ยูนนาน เป้นต้น 2. ทยายอเปิดเส้นทางคาราวาน และ 3. เส้นทางการบินใหม่ๆ ให้ครอบคลุม ทุกเมืองหลักและเมืองรอง
          ทั้งนี้ล่าสุดสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เตรียมเปิดเส้นทางไปกลับ เชียงใหม่หลวงพระบาง เชียงใหม่-เวียงจันทน์ จำนวน 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ สายกาบินนกอแร์ เส้นทางไปกลับ ดอนเมือง-มัฒฑะเลย์ 3 เที่ยวบิน/สัปดาห์ และสายการบินไทยแอร์เอเชีย ดอนเมือง-เวียงจันทน์ จำนวน 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เร่ิมเปิดให้บริการ 1 ก.ค.นี้ เป็นต้น
          สำหรับแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวชาติอาเซียนให้เกิดผลสำเร็จ มองว่ารัฐบาลแต่ละประเทศต้องเร่งผลักดันให้เกิดซิงเกิ้ลวีซ่า ซึ่งมีลัดกษณะเหมือนเชงเ้นวีซ่าในกลุ่มอียู โดย ททท. ยังเตรียมปรับกลยุทธ์ส่งเสริมนักท่องเที่ยวอาเซียนเดินทาง ท่องเที่ยวหมุนเวียนระหว่างกันเจาะกลุ่มระดับบน คาดว่าจะม่ไทยประมาณ 6.8-7 ล้านคน เพื่อลดการพึ่งพาตลาดจีนเป็นตลาดที่มีความเสี่ยง เพราะทุกประเทศต่างให้ความสำคัญ
         www.posttoday.com/biz/aec/news/436410
นายวู นาม รองผุ้อำนวยการทั่วไผฝ่ายการตลาดท่องเที่ย กระทรวงวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ย ประเทศเวียดนาม กล่าวว่า ในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ เวียดนามเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวสามเหลี่มมรดกโลก เชื่อมโยการท่องเที่ยว 3 ประเทศ (หลวงพระบาง-อดรธานี-ฮาลองเบย์)เพื่อ่งเสริมการเดินทางท่องเทียวในชาติอาเซียน คาดปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางเพ่ิมขึ้น วัดจากยอดการเดินทางเดิอน ม.ค.-พ.ค. ที่ผ่านมา เติบโต 38% อยู่ที่ราว 1.1 แสนคน ส่วนตลาดรวมนักท่องเที่ยวเดินทางทั้งหมด 4.5 ล้านคน คาดปีนี้ต่างชาติจะเดินทางเข้ามา 10 ล้านคน
         ททท.ดันเปิด 42 รูตบินใหม่ หนุนเชื่อมเน็ตเวิร์กทั่วอาเซียน
         ททท.ดัน 5 แอร์ไทย เปิด 42 เส้นทางการบินใหม่ แจ้งเกิด โครงการอาเวียน ลิงก์ หนุนไทยเป็นฮับบินอาเซียนและอินเดียรับกลยุทธ์ "อาเซียนคอนเน็กต์" ด้านบางกอกแอร์ นกแอร์ ไทยแอร์เอเชีย รับลูกประเดิมเปิด 6 รูตบินจากเชียงใหม่ ตราด กรุงเทพฯ สู่ประเทศซีแอลเอ็มวี โดยใช้เวที่ "ทีที่เอ็มพลัส" สร้าการับรู้ทั่วโลก ลั่นยังสนับสนุนโปรโมตตลาด 3 เดือนก่อนบิน หวังเพ่ิมทั่วริสต์ 10% ทั่วภูมิภาค
         นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผุ้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ "ฐานเศราฐกิจ" ว่าในขณะที่ ททท. ได้จัดทำร่างเ้นทางลบินที่มีศักยภาพในโครงการอาเซียนลิงก์ เน้นผลักดันให้สายการบินต่างๆ ของไทยพิจารณาโอากาสในการเปิดเส้นทางบิน เพื่อขยายตลาดและส่งเสริมห้เกิดการเดินการเดินทางท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศอาเซียนภายใต้กลยุทธอาเซียน คอนเน็ค ซึ่งจากการศึกาษพบว่ามี 42 เส้นทางบิน โดยเป็นเส้นทางบินเชื่อมระวห่งเมืองหลักและเมืองรองในกลุ่มอาเซีย รวมถึงเมืองต่างๆ ในประเทศอินเดีย และเส้นทงบินภายในประเทศไทย เพื่อำนวนควาสสะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวในภุมิภาคนี้เพ่ิมมากขึ้น...www.thansettakij.com/content/60438
             
  
       
         
             
           

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)