Narrowing the Development Gap

           ประชาคมเศรษบกิจอาเซียน กับ ช่องวางจากการพัฒนา
           ประชาคมอาเซียน มีรัฐสมาชิก 10 ประเทศ ใน 10 ประเทศนี้ มี 4 ประเทศที่มีฐานะและสภาวะเศราฐกิจด้อยกว่า เล็กกว่า และพัฒนาน้อยกล่าวอี 6 ประเทศ และ 4 ประเทศที่ว่านี้ก็เข้ามาเป็นสมาชิกอาเซียนที่หลักว่าอีก 6 ประเทศ
           4 ประเทศที่ว่ด้อยกว่าทางเศรบกิจนี้คือ กัมพุชา, ลาว, เมียนม่าร์, และเวียดนาม อาเซียนมีศัพท์บัญญัติย่อชื่อกลุ่ม 4 ประเทศนี้ว่า CLMV  ย่อมมาจากตัวอักษรนำหน้าชื่อสี่ประเทศนั้นเอง เมื่อรู้สถานภาพทางเศราบกิจของตนว่าต้องเร่งกัฒนาเพื่อให้ไล่ทันรัฐสมาชิกประเทศอื่น กลุ่ม CLMV จึงเร่งพัฒนากันเต็มที่ ทำให้อาเซียนมักจะได้ข่าวดีเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจของกลุ่ม CLMV กันบ่อยๆ
       
ในปี พ.ศ. 2557 สำนักเลขาธิการอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา แถลงข่าวเรื่องการประเมินผลกลางปี ว่าด้วยเรื่องความคืบนหน้าในการปฏิบัติตามแผนการหลอมรวมหรือบูรณาการเศราฐกจิประชาคมอาเซียน ให้ได้ตามแผนงานที่เรียกชื่อเป็นทางการวาไความริเริ่มบูรณาการอาเซียน แผน 2" พอสรุปได้ว่า
          20 ปีที่ผ่านมา กลุ่ม CLMV พัฒนาเศรษบกิจของแต่ละประเทศไปไดอย่างดีและรวดเร็ซ..นี่เป้ฯข่าวดีแต่การพัฒนาที่ทำให้เศราฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ซ ทำให้เกิดช่องวางทางเศราฐฏิจระหว่างคนรวยกับคนจ เป็นข่าวไม่ดี แต่ไม่ถึงกับเป็นข่าวร้าย เพราะการพัฒนาในสังคมที่ด้อยพัฒนา หรือในประเทศที่ล้าหลังยากจนทางเศราฐกจิในโลกนี้นั้น ก็มักจะพบปัญหาชองว่างอันเกิดจากการพัฒนาด้วยกันทั้งสิ้น นักเศราฐศ่าสตร์เรียกว่า "ช่องว่างอันเกิดจากการพัฒนา" เพราะในสังคมเศราฐกิจนั้นคนรวยก็พัฒนาเร็ว แถมยังพัฒนาตัวเองและกิจการของตัวเองโดย
การเอารัดเอกเปรยบหรือย่างน้อยก็กดขี่ค่าจ้างแรงงานคนจนอีกด้วย คนรวยก็เลยรวยกันอย่างไม่สามควรจะรวยมากขนาที่ได้รวยนั้น ส่วนบรรดาคนจนนั้นแม้จะมีงานทำดีมากขึ้น มีายได้เพ่ิมมากขึ้น แต่ก็ไม่มากขึ้นในระดับที่ควรได้ แถมถูกเอาเปรียบและถูกกดขี่ค่าจ้างแรงงานจากนายจ้างที่รวยกว่าก็ย่ิงทำให้คนจนจะจนลงไปกว่าเดิมก่อนการพัฒนา หากเปรียบเที่ยบกับคนที่รวยกว่าที่เขารวยมากขึ้นจนเกิดสัดส่วนที่ควรเป็น ถ้าหากระบบเศราฐกิจมีความยุติธรรม
         "คนรวย รวยมากขึ้น รวยเร็วขึ้น คนจน รอยขึ้นน้อย รวยขึ้นช้า" นีคือช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน หรือ "ช่องว่างอันเกิดจากการพัฒนา "นั่นเอง"คนที่อยู่ระหว่างกลาง หรือผุ้มีรายได้ระดับกลาง ที่เรียกกันแบบแบ่งชนชั้นว่า "ชนชั้นกลาง" นั้นมีน้อยเต็มที ในทาง
ทฤษฎี หากการพัฒนาสามารถทำให้เกิดชนชั้นกลางมากๆ มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ทำให้เหลือจำนวนคนจนกับคนรวยน้อยที่สุด สังคมก็จะมีปัญหาน้อยมาก เพราะคนรวยไม่กี่คนก็ปล่อยให้เขารวยไป และย่อยครั้งในสังมทีมีคุธรรม คนรวยก็มักจะบริจากความรวยกลับเข้าสุ่ระบบเศรษฐกิจ ช่วยคนจนต่อไป ทั้งทางตรงและทางอ้อม ส่วนจนที่จนมาากๆ จริงๆ นั้นในเมือมีจำนวนไม่มากนัก รัฐและสังคมก็สามารถช่วยกันดูแลไ้ จด้านนโยบายแบบรัฐสวัสดิการก็ได้ หรือจะโดยนโยบายเชิงประชานิยม แต่ทำแบบมีกรอบจำกัดให้ช่วยเฉพาะประชกรที่จจริงๆ ก็ได้ หากเป็นไดดังนั้ก็จะพอสร้างสังคมที่พลเมืองเป็นสุขทั่วหน้ากันได้
          คนรวยมา
กๆ ซึ่งเป็นผุ้เสียภาษีอากรมากกว่าใครๆ ก็จะดิ่มเอิบใจที่รุ้ว่าเงินภาษีอากรของตนได้ถุกนำไปใช้ประโยชน์แก่ประชาชนผุ้อ้อยโอกาสจริงๆ ส่วน "ชนชั้นกลาง" หรือผูมีรายได้ปานกลางนั้นก็จะมีความสุขที่ได้ทำงานและดำเนินชีวิตอย่งขยันหมั่นเพียร จ่ายภาษีอากรเต็มทุกบาททุกสตางค์แล้วรู้ว่าเงินภาษีอาการที่ตนจ่ายไปให้รัฐนั้นจะกลับมาสร้างสังคมมและแก้ปัญหาสังคมอย่างแท้จริง
           สำหรับคนจนที่มีอยู่เป็นจำนวนไม่มากนักนั้นก็จะอบอุ่นใจ ได้ว่าสังคมทุกระดับช่วยดุแลอยู่ ความมั่นคงในชีวิตเศรษกิจของคนจน แม้จะไม่ร่ำรวยหรูหรา แต่ก็มั่นคงพอที่จะมีแรงผลักดันควม
ทะเยอทะยานในชีวิตให้ก่อร่างสร้างตัวให้มั่งคั่งและเป็นสุขกว่าเดิมได้
             ปัญหาเฉพาะของอาเซียนในเวลานี้้ หากดูแเฉาพะเรื่องเศรษฐกิจ ก็อยุ่ที่ช่องว่างอันเกิดจากการพัฒนาในกลุ่มประเทศ CLMV แต่ก็มิได้หมายความจะไม่มีปัญหาเดียวกันนี้ในประเทศอื่นๆ ที่จริงในประเทศไทย, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย ก็มีปัญหาเช่นดัน โดยเฉพาะประเทศไทยของเรานั้น นับวันก็จะเพิ่มพูนปัญหานี้มากขึ้นเรื่อยๆ
             สำนักเลขาธิการอาเซียนแถลงต่อไปว่า ผลการประเมินกลางปีที่พบว่า CLMV มีปัญหาช่องว่างจากการพัฒนามากขึ้นแล้วนั้น จึงวิเคราะห์ต่อว่าปัญหารเศณษบกจิของ CLMV ที่ว่ากำลังตั้งเค้านี้นอกเหนอจะกระทบการบูรณาการประชาคมเศราฐกิจอาเว๊ยนตาม IAI แผน 2 โดยตรงแบ้ว ยังจะไปกระทบกระบวนการ บูรณาการในประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน และกรทบประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนด้วย
             ทั้งหมดนี้หมายคึวามว่าปัญหาช่องว่างทางเศราฐกิจ จะนำไปสู่ปัญหาการเมืองและความมั่นคง อีกทั้งจะเป็นปัญหาสังคมและวัฒนธรรมด้วย หากไม่แก้ไขตัดไฟแต่ต้นลมแล้ว ในอนาคตอันไม่ำลกกลุ่มประเทศ CLMV ก็จะมีปัญหาสังคมครบวงจร แล้วก็จะกลายเป้นปัญหาของอาเซียนทั้งประชาคม เพราะอาเซียนต้องการ "บูรณาการระบบเศรษบกิจในภูมิภาคก่อนอื่นใด โดยหวังว่าหากทำสำเร็จก็จะเกิดการบูรณาการในด้านการเมือง ความมั่นคง สังคม วันธรรม ได้ครบถ้วน
             ที่ประชุมจากการ์ตายังไมีมีคำตอบอะไรนอกจากจะแสดงความเข้าใจในปญหา แล้วก็เสนอให้คณะทำงานระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส (ระดับปลัดกระทรวงฯ) ไปศึกษาร่วมกันกับฝ่ายออสเตรเลีย ว฿่งจะให้ความช่วยเหลือผ่านองค์กร และจะมีคณะทำงานจากสถาบันแม่โขง มาช่วยงานด้วย งานจากนี้ไปคือการเร่งศึกษาเพื่อปัฐแผนปฏิบัติการที่มีอยู่แล้ว ให้สามารถรับสถานการณ์ได้ทันท่วงที....https://www.dailynews.co.th/article/220636

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)