East Asia Community : EAC II

             "ประชาคมเอเซียตะวันออก" กลายเป็นการรวมกลุ่มขนาดใหญ่ที่ส่งผลสะเทือนต่อโลก ด้วยจำนวนประชากรที่มหาศาล ขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่โต และสัดส่วนจีดีพีเกือบ 20 % ของจีดีพีรวมทั้งโลก แม้การร่วมกลุ่ม "ประชาคมเอเชียตะวันออก"จะมีความน่าสนใจ แต่การเดินไปให้ถึงเป้าหมายก็ไม่ใช่เรื่อง่าย เพระยังมีมุมมองที่ต่างกันระหวางบรรดาประเทศใหญ่ ชูไอเดียที่จะรวมกลุ่มเอเชียตะวันออกที่อยุ่ในกรอบ +6 (อาเซียน จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์) ส่วนจีนหนุนแนวทางรวมกลุ่มภายใต้กรอบ + 3 ขณะที่ออสเตรเลีย มองไกลกว่านั้น  โดยผลักดันแนวคิด "ประชาคมเอเชีย-แปซิฟิก" ไม่นับรวมความแตกต่างที่มีมากมาย ทั้งในแง่การพัฒนา ระบบการเมืองการปกครอง กฎระเบียบต่างๆ
ประวัติศาสตร์ที่เคยเป็นปรปักษ์กัน รวมถึงบทบาทในปัจจุบันและอนาคต ความไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน ซึ่งสิ่งเหล่นนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่เป็นอุปสรรคในการจะเดินตามความฝันของเหล่าสมาชิก ที่ประชุมได้ทั้งทีมศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งเขตการต้าเสรีอาเซียนตะวันออก ซึ่งเป้นความร่วมมือท่าเศราฐกจิในกรอบ +3 และการเป็นหุ้นส่วนทางเศราฐกิจในเอเชียตะวันออกแบบรอบด้าน ซึ่งเป็นกรอบ +6 โดยในการประชุมครั้งล่าสุดได้นำเสนอผลการศึกษาในระยะที่ 2 และผุ้นำก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเดินไปในแนวทางใด แต่เห็นว่าควรศึกษาและพิจารณา กรอบ +3 และ +6 ควบคู่กันไป
              ฟอร์บส ระบุว่า แนวคิดการร่วมตัวเป้นประชาคมเอเชียตะวันออกเกิดขึ้นมานานแล้ว เพียงแต่เริ่มชัดเจนขึ้นนับตั้งแต่ ปี 2546 ซึ่งขั้วอำนาจทั้ง 2 ได้แก่ จีนและญี่ปุ่น เร่ิมเอาจริงเอาจังกับไอเดียดังกล่าวมากขึ้น และยิ่งทวีความสำคัญขึ้นในปัจจุบัน เมื่อตลาดส่งออกในตะวันตกอยุ่ในภาวะซึมเซาจากพิษวิกฤตเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม อาเซียนประกาศตัวเป็นแกนของการเป็นประชาคมที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นกรอบใดก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่าการรวมตัวทางการต้าจะเกิดขึ้นได้ก่อนด้านการเมือง ซึ่งหากตั้งต้นด้วยการรวมอาเซียน ญี่ปุ่น จีนและเกาหลีใต้ จะทำให้เศราฐกิจใหญ่โตขึ้นจากการรรวมการต้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยจะมีสัดส่วนราว 16% ของจีดีพีรวมทั้งดลก และมีตลาดที่มีศักยภาพจากจำนวน ผุ้บริโภค 1.5 พันล้านคน ขณะที่บริษัทราว 1 ใน 4 ที่อยุ่ในทำเนียบ 2,000 บริษัทขนาดใหญ่สุดในโลกของฟอร์บส ล้วนเป็นบริษัทจากจน เกาหลีใต้ และญีปุ่น แต่แนวคินี้กยังเป็นวิสัยทัศน์ระยะยาว เช่นเดียงกับการก่อตั้งสหภาพยุโรปที่ใช้เวลานานกว่าครึ่งศตวรรษ กว่าจะพัฒนาจากประเทศแกนหลักที่มีฝรั่งเศส เยอรมนี และเบเนลักซ์ จนกลายเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ที่มีสมาชิก 27 ประเทศเช่นปัจจุบัน
           
  ขณะที่ "วอลส์สตรีต เจอร์นัล" รายงานว่า วกฤตเศราฐกิจได้เร่งให้บทบาทของสหรัฐลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ขั้วอำนาจใหม่มีบทบาทมากขึ้น ดดยเฉพาะจีน ความต้องการบลริโภคในตะวันตกที่ลดลงอย่างฮวบฮาบ และเป็นไปได้ว่าความต้องการบริโภคเหล่านี้จะไม่ฟื้นกลับมาในระดับท่เคยเป็นก่อนวิกฤต สิ่งเหล่านี้ช่วยเสริมมุมมองที่ว่าเขตเศรษฐกิจในเอเชียจะช่วย "ถ่วงดุล" ด้วยการบริโภคภายในประทศเพ่ิมขึ้น หรือส่งออกไปยังตลาด ใกล้บ้านแทน
              ดังนั้น การมีกลุ่ึมความร่วมมือในเอเชียจะครอบคลุมประชากรรวครึ่งหนึ่งในโลก และมีการปลิตาว 1 ใน 3 ของทั้งโลก รวมทั้งจะเป็นขั่วที่ 3 ในระบบ เศราฐกิจโลก เพ่ิมเติมจากสหรัฐและยุโรป ซึ่งการรวมพลังกันนี้จะส่งผลให้เกิดความเปลียนแปลงในระบบการเมืองและเศราฐกิจโลก
           
  การรวมตัวกันของเอเชียก็ยังไม่สามารถทดแทนตลาดตะวันตกในฐานะกลจักร ชับเคลื่อนการเติบดต เพราะสัดส่วนการต้าในเอเชียตะวันออก แม้จะเพ่ิมเป็น 55% จาก 37% ระหว่างปี 2523-2549 แต่ความร่่วมมือในกลุ่มสหภาพยุโรปอยุ่ที่ 66% และความตกลงเขตการต้าเสรีอเมริกาเหนืออยุ่ที่ 44% อย่างไรก็ตาม การผลิตในภุมิภาคอเชีย ตะวันออกเป็นลักษรแยกผลิตก่อนส่งไปประกอบขึ้นสุดท้าย ดดยบริษัทหนึ่งอาจลงทุนในโรงงานหลายแห่งในเอเชีย ตะวันออก จากนั้นก็จะส่งชิ้นส่วนต่างๆ ไปประกอบให้สมบูรณ์ก่อนส่งออกไปตลาดสหรัฐหรือยุโปร ทไใ้การรวมตัวของ เอเชียตะวันออกมีการเชื่อมโยงกับการบูรณาการของโลก แต่ภาคการผลิต บริการ และภาคเกษตรกรรมในเอเชีตะวันออกยังมีอุปสรรคจากการปกป้องทางการต้าอยู่มา ดดยเฉพาะในเอเชียใต้ที่มีปัญหารนี้มาก ขณะที่่ความร่วมมือด้านการเงินการคลังในเอเชียตะวนออกยังอยุ่ในช่วงตั้งไข่ จึงยังไมเปิดเสรีมากนัก และแม้จะมีความเชื่อมโยงกับศูนย์กลางการเงินอื่นๆ แต่ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ระบุว่า ในปี 2549 เอเชียมีสินทรัพย์ในมือนอยกว่า 10% ของทั้งหมดที่ลงทุนในภูมิภาค เทียบกับสหรัฐที่ถือครองสินทรัพย์นภูมิภาคนี้ 30% ซึ่งแม้จะมีความพยายามจัดตั้งกองทุนพันธบัตรเอเซียและความริเริ่มตลาดพันธบัตรเอเชีย แต่ก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น...


(www.prachachat.net/.."ประชาคมเอเชียตะวันออก" ความผันที่ยังต้องเดินทางอีกไกล"

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)