เจ้าชายบาตู |
เมือเจ้าชายตูลิขณะกำลังจะสิ้นพระชนม์ โอโกไตข่านจึงให้สัตย์สัญญากับเจ้าชายตูลิว่าหากพระองค์สวรรคตเมือได โอรสองค์โตของตูลิจะได้ขึ้นครองราช…
เจ้าชายคูยัค |
ในปี ค.ศ. 1242 กองทัพมองโกลบุกเข้าถึงนคราเวียนนาที่งดงามแห่งหนึ่งในยุโรปทัพมองโกลตั้งค่ายล้อมเมืองเตรียมบุกครั้งใหญ่ ข่าวการสวรรคตอย่างกระทันหันของโอโกไต ข่านจึงมาถึงกอลทัพมองโกล เจ้าชายบาตูจำต้องถอยกำลังออกจากยุโรปเพื่อกลับไปเลือก คาฆานองค์ต่อไป ณ กรุงคาราโครัม
เจ้าชายบาตู ข่าน ผู้พิชิตยุโรป
เจ้าชายมองเก้ โอรสองค์โตของเจ้าชายตูลิ
เจ้าชายคูยัค ข่าน โอรสองค์โตของโอโกไตข่าน
เจ้าชายมองเก้ |
เจ้าชายบาตูทรงปฏิเสธเนื่องจากพระองค์มีอาณาจักรของพระองค์เองแล้ว จึงมีเพียงเจ้าชายมองเก้ และเจ้าชายคูยัค ฝ่ายหนึ่งมีพระนางเซอร์กัจตานิเบกิผู้เป็นอัครมเหสีของเจ้าชายตูบิเสนอให้ลูกชายตนขึ้นครองราชย์ตามสัตย์สัญญาที่โอโกไตข่านทรงสัญญาไว้ก่อนสวรรคต อีกฝ่ายหนึ่งมีพระนางตูรากีนาผู้เป็นอัครมเหสีของโอโกไตข่านที่ถือสิทธิ์ว่าลูกชายตนคือเป็นโอรสที่ทรงสืบสายเลือดโดยตรงและชอบธรรม เพราะเหตุนี้ที่ทำให้สภาคูรับไตโต้เถียงกันอย่างรุนแรงและแตกเป็นสองฝ่ายในที่สุด ผลที่ออกมาต้องใช้เวลาถึง 4 ปีจึงจะรู้ผล โดยเจ้าชายคูยัคข่านได้ขึ้นครองราช แม้จะทำศึกเพื่อให้ข่านอื่นๆ ยอมรับตนแต่ภายในราชสำนักมองโกลเองเกิดการฉ้อราษฎรด้วยอำนาจที่แท้จริงตกอยู่ในมือพระมารดา บรรดาขุนศึกและข่านที่จงรักภักดีรู้สึกอดสู้ต่อกาลนี้ ต่อมาอีกสองปี คูยัคข่านก็สิ้นพระชนม์อย่างกะทันหัน
บรรดาขุนศึกและพระราชวงศ์มองโกลต่างพร้อมใจกันทูลเชิญเจ้าชายมองเก้โอรสเจ้าชายตูลิขึ้นครองบัลลังค์ เป็นคาฆานองค์ที่ 4 แห่งอาณาจักรวรรดิมองโก
พระนางตูรากีคงยืนยันที่จะเอาสายเลือดของโอโกไตข่านขึ้นครองรา โดยให้พระนัดดาคือ เจ้าชายซีเรมุนเป็นคาฆาน
จึงเกิดศึกชิงบัลลังค์ นับเป็นเวลา6 ปี ซึ่งในทีสุดเจ้าชายมองเก้ ขึ้นครองราชย์เป็นคาฆานอย่างชอบธรรมและประหารผู้ต่อต้านจนหมดสิ้น
“ข้อจะเจริญรอยตามพระบรมอัยกาเจงกิสข่าน ข้าจะส่งกองทัพมองโกลออกไปพิชิตแผ่นกินโลทั้งประจิมและบูรพาทิศให้เป็นของชาวมองโกลทั้งหมด”
มองเก้เป็นคาฆานองค์ที่ 4 ทรงเป็นพระราชโอรสของเจ้าชายตูลิและพระนางเซอร์กัจตานิ (จวงเชิงฮองเฮา) ทรงมีพระอนุชา(น้อง)อีก 3 พรองค์คือ เจ้าชายคูบิไล เจ้าชายฮูเลกู และจ้าชายอริโบเค ซึ่งล้วนเป็นยอดนักรบที่มีฝีมือทางการสงคราม
โดยมีนโยบายดังเดิมคือขยายอาณาจักรมองโกล และเล็งเห็นว่ามองโกลจะต้องพิชิตจักรวรรดิจีนซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่นครหังโจว และจักวรรดิอาหรับอับบาสิดส์ของชาวมุสลิมที่กรุงแบกแดด โดยในการครั้งนี้มีขุนศึกคู่พระทัยคือ พระอนุชาคูบิไลและเฮเลกู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น