เซียงหยาง อยู่ในตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลหูเป่ย เป็นจุดยุทธศสตร์ที่สำคัญของ
กุบไลข่านเมืองขึ้นครองจักรวรรดิมองโกลแล้ว จึ้งเตรียมไพร่พลที่จะบุก ราชวงศ์ซ่ง จากภูมิประเทศแผ่นดินซ่ง ที่มีแม่น้ำแยงซีเป็นปราการทางธรรมชาติ และภูเขาที่สลับซับซ้อน มองโกลจึงจัดเตรียมกำลังจากทหารม้า มาเป็นทหารราบ และกองเรือ
มองโกลเคลื่อนพลลงจากทางเหนืออย่างรวดเร็วและโจมตีเมืองต่าง ๆ อย่างหนัก บรรดาแม่ทัพนายกองล้วยสวามิภักดิ์ มองโกลจัดการแผ่นดินสองฝั่งแม่น้ำแยงซีแล้ว กองทัพมองโกลจึงเคลื่อนพลทั้งทางบกและทางน้ำ
และเข้าสู่สมรภูมิ เซี่ยงหยาง และฝ่านเฉิง ทั้งสองเมืองนี้เป็นเมืองอกแตก คือมีแม่น้ำฮั่นไหลฝ่านกลางเมือง เช่นเดียวกับ บูดาและเปสต์ในฮังการี
ในการล้อมเมืองเซี่ยงหยางนี้ใช้เวลาในการล้อม 5 ปี เกือบเข้าปี่ 6 (ค.ศ.1267-1273) จึงจะตีแตก ดังที่ได้อธิบายถึงภูมิประเทศของเมืองประกอบกับกำแพงเมืองเซียงหยางที่สูงใหญ่และป้องกันการโจมตีจากเครื่องยิง ต่างๆ ด้านหน้าแม่น้ำฮั่นที่มีความกล่าวกว่า150 เมตรเป็นปราการธรรมชาติอย่างดียิ่ง และภูเขาใหญ่เป็นปิดล้อมทั้งซ้ายและขวาและด้านหลังของเมืองอย่างแน่นหนา
ในการล้อมเพื่อจะให้ชาวเมืองหมดเสบียงและออกมาสวามิภักดิ์ แต่การล้อมเมืองลักษณะนี้ไม่ได้ผลเพราะสามารถออกไปหาเสบียงหรือส่งทหารเข้าปล้นค่ายหรือลอบออกไปหากำลังหนุนทางน้ำได้ ดังนั้นจึงเป็นการชิงเชิงยุทธศาสตร์เหนือน่านน้ำฮั่น
กองทัพมองโกลเปิดฉากการโจมตีโดยส่งกองเรือรบระดมยิงกำแพงเมืองอย่างหนักเพื่อให้กองทหารราบบุกยึดหัวหาด ซึ่งก็ได้ผล แต่มองโกลไม่สามารถเข้าตีเมืองได้ การเข้าตีเมืองในแต่ละครั้งมองโกลต้องสูญเสียไพร่พลเป็นจำนวนมาก มองโกลจึงตัดสินใจล้อมเมืองไว้
เมื่อเซี่ยงหยางถูกล้อม “ชาวซ่ง” ไม่ส่งกองทัพมาช่วย โดยอ้างว่าเมืองนี้มี “เทวดาสถิตย์อยู่” และมองโกลจะต้องย้อนกลับไปเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น