การล่มสลายของราชวงศ์จิ้นตะวันตก แผ่นดินจีนจึงตกอยู่ในภาวะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ราชสำนักจิ้นย้ายฐานที่มั่นเมืองหลวงลงใต้ สถาปนาราชวงศ์จ้นตะวันออก ขณะที่ทางเหนือวุ่นวายอย่างหนัก แผ่นดินที่แตกออกเป็นแว่นแคว้น ที่ปกครองโดยชนกลุ่มน้อยจากชนเผ่าต่าง ๆ ผลัดกันรุกผลัดกันรับ ผ่านการล้มล้างและก่อตั้ง ครั้งแล้วครั้งเล่า นำสู่การหลอมรวมทางเชื้อชาติ ชาติพันธ์ครั้งใหญ่ของจีน
แคว้น | ชนเผ่า | ระยะเวลา(ค.ศ.) |
เฉิงฮั่น | ตี | 304-347 |
ฮั่นเจ้า | ซ่งหนู | 304-329 |
สือเจ้า | เจี๋ย | 319-351 |
เฉียนเหลี่ยง | ฮั่น | 320-376 |
เฉียนเอี้ยน | เซียเปย | 337-370 |
หรั่นวุ่ย | ฮั่น | 350-351 |
เฉียนฉิน | ตี | 351-394 |
โฮ่วฉิน | เชียง | 384-417 |
โฮ่วเอี้ยน | เซียนเปย | 384-407 |
ซิเอี้ยน | เซียนเปย | 384-394 |
ซีฉิน ฉิน | เซียนเปย | 385-431 |
โฮ่วเหลียง | ตี | 386-403 |
หนันเหลียง | เซียนเปย | 397-414 |
หนันเอี้ยน | เซียนเปย | 398-410 |
ซีเหลียง | ฮั่น | 400-421 |
เผ่าซงหนู
ในยุคเลียดก๊ก พวกซงหนูมีอาณาบริเวณของตนกว้างขวาง ผู้นำของพวกซงหนูเรียกว่า “ฉานหยู” อาณาเขตพวกซงหนูนั้นตั้งแต่ทะเลทรายโกบีในมองโกลเลีย ทุ่งหญ้าสเตปป์ และทะเลทรายท่คลามากานในเอเซียกลาง..
บรรดาก๊กต่าง ๆ ของจีนต่างมุ่งชิงอำนาจกันเองเป็นเวลาสองศตวรรษ และพวกซงหนูหาโอกาสบุกจีนโดยการรุกรานทางภาคเหนือของจีนเรื่อยมา อันเป็นสาเหตุที่ทำให้ “จิ๋นซีฮ่องเต้”ทรงสร้างกำแพงเมืองจีนเมื่อรวบรวมแผ่นดินแล้ว แต่ทว่าซงหนูยังรุกรานจีนเรื่อยมากระทั่งราชวงศ์ฮั่น ในสัมัยจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ พระองค์ทรงส่งกองทัพเข้าขับไล่พวกซงหนูออกจากพรมแดนทะเลทรายโกบีและทะเลทรายทาคลามากานได้ จึงสามารถทำให้ราชวงศ์ฮั่นสามารถเข้าครอบครองเส้นทางสายไหมไว้ได้กึ่งหนึ่ง พวกซงหนูบางส่วนที่พ่ายแพ้ต่อราชวงศ์ฮั่นจึงเรร่อนสู่ตะวันตกและบุกโจมตีจักวรรดิโรมัน พวกตะวันตกเรียกขานพวกซงหนูว่า ฮั่น Hun อีกพวกหนึ่งบุกลงใต้ยังอนุทวีป คืออินเดียนั้นเอง โดยไปรวมกับพวกอารยันกระทั่งกลายเป็นฮั่นกลุ่มใหม่ที่เรียกว่า “ฮั่นขาว”
เผ่าทูเจี๋ย
ที่รู้จักกันในนามว่า “เติร์ก” พวกทูเจี๋ยอาศัยอยู่ในเอเชียกลางมากก่อน ต่อเมื่อพวกซงหนูสิ้นอำนาจแล้วจึงอพยพมาทางเหนือกระทั่งถึงมองโกล พวกทูเจี๋ยเรียกผู้นำสูงสุดว่า “ข่าน” พวกทูเจี๋ยทำสงครามรุกรานจีนตั้แต่ราชวงศ์เหนือใต้ เรื่อยมาจนถึงราชวงศ์ถัง แต่ความสัมพันธ์ของเผ่าทูเจี๋ย กับจีนในช่วงนี้เป็นไปในทางที่ดีมากว่าเผ่าซงหนู กล่าวคือในช่วงราชวงศ์เหนือใต้ชาวทูเจี๋ยและชาวจีนได้มีการผสานทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรม จนทำให้บรรดาราชวงศ์ของจีนที่อยู่ทางเหนือมีเชื่อสายทูเจี๋ย แม้แต่จักรพรรดิราชวงศ์สุย และราชวงศ์ถึงก็ทรงมีเชื่อสายทูเจี๋ยเช่นกัน ทูเจี๋ยกลุ่มนี้ก็คือพวก “เชลจุคเติร์ก”นั่นเอง
เผ่าหนี่เจิน (แมนจู)
มีถิ่นอาศัยในที่ราบสูงแมนจูเรียเช่นเดียวกับพวกซี่ตาน แต่ถูกปกครองโดยเผ่าซี่ตานต่อมาแมนจูทำการขับไล่พวกซี่ตานและสถาปนาเผ่าตนเป็น “ราชวงศ์จิน” และทำการทรยศหักหลังราชวงศ์ซ่ง มีการปลอมราชโองการองค์จักรพรรดิ์ที่เรียกว่า “ 12 โองการทองคำ” ซึ่ง..ในการทรยสกับความโหร้ายในการทำศึกของพวกหนี่เจินจึงทำให้ชาวจีนเรียกพวกหนี่เจินในอีชื่อว่า “แมนจู” หรือ”เม่งจู้”ซึ่งแปลว่า “ปีศาจ”
ราชวงศ์จินปกคองแผ่นดินจีนทาง เหนือเพียงครู่ดียว จมทัพเจกิสข่านก็เรื่องอำนาจ ราชวงศ์จินล่าสลาย หนี่เจินบางส่วนคงหลงเหลืออยู่ในแดนแมนจูเรีย เผ่านหนีเจิ่นยังคงอยู่เรื่อยมากระทั่งราชวงหมิง จึงปรากฎมีข่านหนีเจิน ชื่อว่า “อั๊ยซินเจี๋ยลั๋ว นูรเออฮาซื่อ” ได้รวมเผ่าหนี่เจินเป็นหนึงและสถาปนา “ราชวงศ์โฮ่วจิน” (โฮ่ย ยุคปลาย)ทำสงครามกับราชวงศ์หมิงสืบมากระทั่งรัชสมัย “หวงไท่จี๋ข่าน”จึงเปลี่ยนรามราชวงศ์เป็น “ราชวงศ์ชิง” และสถาปนาเป็นจักรพรรดิทรงพระนามว่า “ชิงไท่จง”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น