World Heritage Site,Vietnam

            เวียดนาม เป็นประเทศในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ทาด้านตะวันออกสุดของคาบสมุรอินโดจีน มีพรมแดนติดกับประเทศจีนทางทิศเหนือ ประเทศลาว และประเทศกัมพูชา ทางทิศตะวันตก และอ่าวตังเกี๋ย ทะเลจีนใต้ ทางทิสตะวันออกและใต้ หรือในภาษาเวียนามเรียกเฉพาะทะเลทางทิศตะวันออกว่า ทะเลตะวันออก เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 13 ของโลก
            หมู่โบราณสถานเมืองเว้ Complex of Hue Monument 
            เว้ เป็นเมืองเอกของจังหวัด เถื่อเทียน-เว้ ประเทศเวียดนามและเคยเป็นเมืองหลวงเก่าในสมัยราชวงศ์เหงียนช่วงปี พ.ศ. 2345-2488 มีชื่อเสียงจากโบราณสถานที่มีอยุ่ทั่วเมือง แต่เดิมนั้นเว้เป็นเมืองหลวงของราชวงศ์เหงียน ซึ่งปกครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของเวียดนามตอนใต้ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17-19  เว้มีฐานะเป็ฯเมืองหลวงของประเทศจนึถงปี พ.ศ. 2488 เมื่อจักรพรรดิบ๋าว ดั่ย แห่งเวียดนามทรางสละราชสมบัติ และมีการก่อตั้งรัฐบาลคอมมิวนิสต์ขึ้นที่ฮานอย ทางตอานเหือของเวียดนาม ต่อมาในปี พ.ศ. 2492 จักรพรรดิบ๋าว ดั่ย ทรงได้รับการช่วยเหลือจากชาวฝรั่งเศสในอาณานิคม และทรงก่อตั้งเมืองหลวงใหม่ คือ ไซ่องอ่น ทางใต้ของประเทศ
            ในช่วงสงครามเวียดนาม เว้อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับอาณาเขตระหวางเวียดนามเหนือและเวียนามใต้ ดดยเว้อยู่ในอาณาเขตของเวียดนามใต้ ในปี พ.ศ. 2511 ตัวเมืองได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะโบราณสถานหลายแห่งมีระดมยิงและถูกระเบิดจากกองทัพอเมริกัน แม้หลังสงครามสงบลงแล้ว เหล่าโบราณสถานหลายแก่งที่ระดมยิงและถุกระเบิดจากกองทัีพอเมริกัน แม้หลังสงครามสงบลงแล้ว เหล่าโบราณสถานก็ยังไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ เนื่องจากถุกกลุ่มผุ้นำคอมมิวนิสต์และชขาวเวียดนามบางส่วนมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของระบอบศักดินาในอดีต แตะหลังจากนี้แนวคิดทางการเมืองได้เปลี่ยนแปลงไป ก็เร่ิมมีการบูรณะโบราณสถานบางส่วน เว้ได้รับการยืนยันจากองค์การยูเนสโก็ประกาศขึนทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี พ.ศ. 2536 สิ่งเหล่านีเองที่เป็นมนต์เสน่ห์ดึงดุดนักท่องเที่ยวจากทั่วดลกให้มาเยี่ยมเยือนรเมืองมรดกโลกริมแม่น้ำหอมที่ไม่ได้สูญกายไปพร้อมกับกาลเวลาแห่งนี้
           สุสานจักรพรรดิตือดิ์ก อยู่ทางทิศตะวันตกเแียงใต้ของเมืองเว้ ตำหนัก 2 แห่งภายใต้อาคารไม้เก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบลูเคียม อันรายล้อมด้วยดอกบัวที่บานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมไปทั่ว พระองค์ทรงใช้เวลาว่างในตำหนักแก่งนี้นิพนธ์บทกวีและพักผ่อนหย่อนใจด้วยการตกปลา ถัดมาที่ส่วนกลางวงของสุสานมีศิลาจารึกขนาดใหญ่ที่กล่าวถึงพระเกียรติคุณและเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นในรัชสมัย และอาคารทรงดรงขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นโรงละครสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ส่วนตัวสุสานของพระองค์นั้นอยุ่ด้านในสุด รายล้อมไปด้วยความร่มรื่นขอวทิวสน ต้นไม้ที่แสดงถึงความอมตะ เพราะมีต้นไม่เพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่มีใบเขียวตลอดปี ชาวเวียดนามจึงนำไปเปรียบเทียบกับความเป็นอมตะขององค์จักรพรรดิแห่งราชวงศ์เหงี่ยน
          สุสานจักรพรรดิมินห์มาง ตั้งอยู่บริเวณปากน้ำตาตรักและหุรัค ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำหมอมาบรรจบกัน บริเวณหมุ่บ้านบานเวียด การก่อสร้างสุสานแห่งนี้เริ่มขึ้นในปี พ.ศ.2383 หรือ 1 ปี ก่อนสิ้นพระชนม์ และสำเร็จลงโดยพระเจ้าเถี่ยวตรี รัชทายาทของพระองค์ในปี พ.ศ. 2386 เพระเจ้ามิงห์หมา่างเป็นพระโอรสองค์ที่ 4 ของพระเจ้ายอลอง และเป็นจักรพรรรดิองค์ที่ 2 ในราชวงศ์เหวียน พระองค์ทรงสร้างนครจักรพรรดิและได้รับการยอกย่องอย่างสูงจากการที่ทรงปฏิรูปขนบธรรมเนียมประเพณีและเกษตรกรรม พระองค์ทรงยึคดมั่นในแบบแผนการบริหารการปกครองตามแบบจีน โดยการให้หัวเมืองต่างๆ มาขึ้นตรงต่อราชสำนัก รวมทั้งนดยบายายต่อต้านฝรั่งเศสและปราบปรามพวกนอกศาสนาอย่างรุนแรง ซึ่งนโยบายนี้เองที่ทำให้เวียดนามตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสในเวลาต่อมา
           อ่าวหะล็อง Ha Long Bay อ่าวหะล็อง เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ยทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ใกล้ชายแดนติดต่อกับประเทศจีน มีพื้นที่ทั้งหมด 1,500 ตารางกิโลเมตรและมีชายฝั่งยาว 120 กิโลเมตร ชื่อตามการออกเสียงในภาษเวยดนามเขียนได้ว่า Vinh Ha Long กมายถึง อ่าวแห่งมังกรผุ้ดำดิ่ง
           ในอ่าวหะล็องมีเกาะหินปูนจำนวน 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวทะเล บนยอมของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นหายเกาะมีถำ้ขนาดใหญ่อยู่ภายใน ถำ้ที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณอ่าวคือ ถ้ำเสกไม้ หรือชื่อเดิมว่า "กร็อตเดแมร์แวย์" ซึ่งตั้งชื่อโดยนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสที่ม่เยี่ยมชมอ่าวเมืองปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ภายในถ่ำประกอบไปด้วยโพรงกว้าง 3 โพรง มีหินงอกและหินย้อยขนาดใหญ่อยู่จำนวนมาก เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบริเวณอ่าว 2 เกาะ คือ เกาะกั็ตบ่า และเกาะต่วนเจิว ทั้งสองเกาะนี้มีคนตั้งถิ่นฐานอยู่อย่างถาวร บนเกาะมีโรงแรมและชายหาดจำนวนมาดคอยให้บริการนักท่องเที่ยว ส่วนเกาะขนาดเล็กอื่นๆ บางเกาะก็มีโรงแรมและชายหาดจำนวนมากคอยให้บริการนักท่องเที่ยว ส่วนเกาะขนาดเล็กอื่นๆ บางเกาะมีโรงแรมและชายหาดจำนนมากคอยให้บริการนักท่องเที่ยว ส่วนเกาะขนาดเล็กอื่นๆ บางเกาะมีชายหาดที่สวยงสามที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยี่ยมชม
        ตามตำนานพื้นบ้าน กล่าวไว้ว่าในอดีต ระหว่างที่ชาวเวียดนามกำลังต่อสู้กับกองทัพชาวีนผู้รุกราน เทพเจ้าได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยปกป้องแผ่นดินเวียดนาม มังกรเหล่าน้ได้ดำดิ่งลงสู่ท้องทะเลบริเวณที่เป็นอ่าวหะล็องในปัจจุบัน ทำให้มีอัญมณีและหยกพุ่งกระเด็นออก อัญมณีเหล่านี้กลายเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายอยู่ทั่วอ่าย เป็นเกราะป้องกันผุ้รุกราน ทำให้ชาวเวียดนามปกป้องแผ่นดินของพวกเขาได้สำเร็จและก่อตั้งประเทศซึ่งต่อมาก็คือเวียดนามในปัจจุบัน บางตำนานสมัยใหม่ก็กล่าวไว้ว่า ปัจจุบันมีสัตว์ในตำนานอาศัยอยู่ที่ก้นอ่าว
         เมืองโบราณ ฮอยอัน "แบ๊คแพ๊คไป ฮอยอัน ..." Caledonnia, 22 ตุลาคม 2555
         ..ความรู้สึกตอนนี้คือ หลงทาง เดินไปเรื่องๆ พลางถามทางไปด้วย เพื่อหาโรงแรมราคาถูก เดินมา 1 ชม. กว่า เข้าดรงแรมนุ้นออกโรงแรมนี้ บางที่ 20 เหรียญเราก็ไม่เอาเพราะแพง ต้องการ 10-15 เหรียญเท่านั้น จนได้มาพบกับโรงแรมเก่าๆ โทรมๆ เป็นราคามา 15 เหรียญเอาเลยๆ ไม่ไหวที่จะเดินหาแล้ว...ห้องพักไม่ได้แย่อะไร มีแอ่ร์ น้ำอุน wifi อยูได้สบายแฮะ..มีอ่างให้แช่ด้ย..ได้เวลาออกทัวร์รอบเมืองและหาอาหารให้กระเพาะแล้ว ขั้นแรกขอแผนที่เมืองจาก รีเซ็ปชั้นโรงแรมก่อนเค้าก็แนะนำนู่นนี่ ใกล้กับโรงแรมมีคุณยายเป็นให้เช่าจักรยามันละ 1 เหรียญ คุณยายใจดีช่างพูดช่างคุยยิ้มแย้มมาก..เริ่มหาร้านอาหาร Trung bac เป็นร้านที่คนไทยหลายคนบอกว่าอร่อย เราเลยตามมาพิสูจน์
         ก่อนอื่นแวะซื้อตั๋วก่อน สำหรับเข้าสถานที่สำคัญ เช่น วัด บ้านเก่า ชมการแสดง หลายๆ อย่างในเมือง ตั๋วใบนึ่งสามารถเข้าได้ 5 สถานที่ ซึ่งในฮอยอันมีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมประมาณ 20 หว่าๆ เลือกเอาได้แลยว่าจะไปไหน ราคาก็ 5 เหรียญ ตื่นเต้นๆ (เจอร้านอาหารเป็นที่เรียบร้อย)
         .. รู้ตัวอีทีแสงอาทิตย์อันร้อนแรงก็ค่อยหายไป แสงไฟจากโคมตามร้านค้าต่างๆ เริ่ม่องสว่าง จุดตรงนี้คือจุดที่เรือประมงมาจอดพักไว้ เป็นช่วงน้ำกร่อย มีช่องน้ำที่สามารถออกทะเลได้ แสงโดคมนับร้อยหลากสีสันต่างอวดแสงแข่งกัน เมืองตอนเย็นๆ เริ่มคึกคักนักท่องเที่ยวออกมา เดินเล่นเพราะว่าอากาศเริ่มจะเย็น ฉัยงังพยายามจะตบหน้าตัวเอง ภาพที่อยุตรงหน้ามันสวยเกินที่ฝันไว้ ฉันก็ไม่ได้คิดว่าฮอยอันจะสวยขนาดนี้..
         สถานที่ศักดิ์สิทธิ์หมีเซิน My son Sanctury เป็นโบราณสถานในจังกวัดกว๋างนาม ภาคกลางของประเทศเวียดนาม สร้างด้วยศิลปะจามโบราณในสมัยศตวรรษที่ 4 เพื่อใช้เป็นศาสนสถานสำหรับบูชาพระศิวะ ตามความเชื่อในศาสนาฮินดู ได้จัดให้เป็นแหล่งรดกโลกโดยองค์การยู่เนสโก หมีเซินเคยเป็นนครศักิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญอันดับต้นๆ ของอาณาจักรจามปาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 -ศตวรรษที่ 15 ด้วยระยะเวลากว่า 900 ปี ทำให้โบราณสถานแห่งนี้เป็นที่รวบรวมลักษณะทางด้านศิลปกรรมที่หลากหลาย จัดเป็นกลุ่มโบราณสถานในศาสนาฮินดูที่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดในอินโดจีนกลุ่มแราสาทหม่เซินตั้งอุ่บริเวณที่รอบต่ำ มีภุเชาโอบล้อม เนื้อทที่ประมาณ 2 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยปราสาททั้งหมด 73 หลังแต่ในช่วงสงครามเวียดนาม ทหารเวียดนามได้ใช้ปราสาทหมีเซินเป็นกองบัญชาการ ฝ่ายอเมริกันจึงได้นำเครื่องบินทิ้งระเบิดบริเวณนี้ โบราณสถานจำนวนมากถูกทำลายทำให้ปัจจุบันเหลือปราสาทเพียง 22 หลัง
            อุทยานแห่งชาติฟ็องญา-แก๋บ่าง Phong Nha-Ke Bang Nation Park อยู่น่างจากนครโด่งเหน ไปทางทิศเหนือราว50 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 200,000 เฮกเตอร์ อยู่ในเขตจังหวัดกว่างบินห์ ซึ่งเป็นจังหวัดอยุ่ในพื้นที่ของภาคกลางอุทยานแห่งชาติฟองยา มีพื้นที่ทั้งที่อยุ่ในประเทศเวียดนาม และส่วนที่อยู่ในประเทศลาวอีกด้วย ดดยรวมแล้ว จะมีเนื้อที่กว้างถึง400,000 เฮกเตอร์อุทยานแห่งชติฟองยา เป็นเขตป่าและภูเขาเนินหินปูนที่มีอายุประมาณ 400 ล้านหว่าปี ถือว่าเก่าแก่ที่สุดในทวีปเอเชีย พื้ทีป่าไม้ในอุทยานกว่า เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ คือป่าะรรมชาติ และเนื่องจากเป็นเขตของภูเขาหินปูนนี้เง อง จึงได้ทำให้มีอุโมงและถ้ำจำนวนหลายแหล่งและมีความสวยงามไปตามแนวของภูเขา จากการสำรวจของระหว่างสมาคมภูมิภาคประเทศแห่งสหราชอาณาจักรกับภาควิชาภูมิประเทศและธรณีจากมหาวทิยาลัยแห่งชาติ เวียดนาม ปรากฎว่า ในบริเวณภูเขาเนินหินปูนนั้นแก๋บ่าง นั้นมีทั้งถ้ำลอดขงอแม่น้ำชอน โดยมีความยาวถึง 13,939 เมตรและมีทั้งโถงต่างๆ ที่มีความสูงเฉลี่ยจากพื้นจรดเพดามถ้ำ 10-14 เมตร
มากกว่า 10 แก่งอีกด้วย เฉพาะส่วนถ้ำฟองยาที่ซึ่งขณะนั้สามารถสำรวจได้นั้นก็มีความยาว ราว 7,700 เมตร และมีการประมาณว่าความยาวของถ้ำที่มีทั้งหมดในอุทยานฯ แห่งนี้รวมแล้วก็ไม่ต่ำกว่า 44 กิโลเมตร
          ฟองญ่า เป็นถ้ำที่ได้รับการยกย่องว่ามีความเป็นที่สุด ทั้งนี้ ได้แก่ ถ้ำอยุ่ในน้ำยาวที่สุ มีปากถ้ำกว่างและสูงที่สุด มีเนินทรายและหินใต้น้ำสวยที่สุด มีทะเลสาบน้ำจือดในถ้ำสวยที่สุด มีหินวอกหินย้อยรูปทรงต่างๆ สวยงานพิศดารสุดจะพรรณา มีลำน้ำลอดภูเขายาวที่สุด และถ้อมีทั้งปก้ง ทั้งกว้างและส่วยที่สุด
          การเที่ยวชม ฟองญ่า-แก๋บ่าง จะเป็นการนั่งเรือไปเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากเที่ยวชมวิวทิวทัศน์แล้วยังสามารถสัมผัสกับชีวิต กับวัฒนธรรมของชาวเขา ราษฎรชาวเวียดนาม ซึงจะมีทั้งเผ่าแซจ เผ่าหรุก เปาอาแรม และเผ่ามะเหลี่ยง ทั้งนี้ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 บาทหลวงชาวฝรั่งเศสได้ทำการสำรวจ เป้ฯครั้งแรกและก็ได้พบเจอเอกสารที่ชาวจามได้แกะสลักเป็นภาษาจามไว้ในถ้ำ และเขาได้กล่าวด้วยว่าเป็น "ถ้ำสวยที่สุดในอินโดจีน"
             
พระราชวังจักรพรรดิแห่งทังล็อง-ฮานอย Central Sector of Imperial Citadel of Thang LongHanoi ตั้งอยู่ในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนามเป็นพระราชวังเก่าแก่อายุกว่า 1.000 ปี สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หลีเหวีด(ก่อนกรุงสุโขทัยราว 200 ปี) เพื่อประกาศเอกราชอาณาจักรดายเหวียด ชื่อของอาณาจักเวียดนามโบราณ ทั้งหมดสร้างขึ้นทับป้อมปราการเก่าของจีนตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 7 ที่เคยเป็นศูนย์กลางการปกครองและการทหารติดต่อกันนาน 13 ศตวรรษ ลักษณะรูปแบบการก่อสร้างเหมือนป้อมปราการของจีนในสมัยศตวรรษที่ 7 ซึ่งประราชวังทังลอง สร้างบนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง ในช่วงที่เวียดนามปกครองด้วยกษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการปกครองของประเทศ
           ปัจจุบันทางการเวียดนามอนุญาตให้เข้าชมเขตโบราณสถานที่เป็นพระราชวังเก่า ในเขตปราการฮานอยอย่างจำกัด เนื่องจากยังมีการขุดค้นทางโบราณคดีอยุ่ภายในนั้น
           ป้อมปราการของราชวงศ์โฮ Citadel of the Ho Dynasty เป็นกำแพงระราชวังหลวงสมัยราชวงศ์โฮ (พ.ศ. 1940-1950) ปราสาทเต็ยโด มีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ความยาวเหนือจรดใต้เท่ากับ 870.5 เมตร ตะวันออกจรดตะวันตกเท่ากับ 883.5 แมตร มีประตูสี่ด้าน ประตูหน้าคือประตูด้านทิสใต้ มีความสูง 9.5 เมตรและกว้าง15.17 เมตร อีกสามประตูอย่ทางทิศเหนือ ตะวันออก และตะวัตก ตัวปราสาทสร้างขึ้นจาก้อนหิน ซึ่งแต่ละก้อนมีขนาดประมาณ  2 ม.คูน 1ม. คูน 0.70ม. นอกจากประตูแล้ว ตัวปราสาทเกือบทั้งหมดได้พังทลายไปแล้ว
           ป้อมปราการราชวงศ์โฮสร้างโดยจักรพรรดิโฮ่กุ๋ยลี ครั้งเป็นที่ปรึกษาจักรพรรดิราชวงศ์เจิ่น เวลานั้นเมืองหลวงของเวียดนามอยุ่ที่ ทังล็อก แต่ภูมิประเทศเป็นที่ราบเปิดกล้างต้อนรับศึกสงครามจากจีนเป็นระยะ โฮ่กุ๋ยหลีจึงเสนอโครงสร้างพระนครแห่งใหม่ไว้ป้องกันขอช้อศึกนอกประเทศ เมื่อสร้างเสร็จจึงเรียกว่า พระราชวังตะวันตก ส่วนพระราชวังทังล็อกเลี่ยปชื่อเป็นพระราชวังตะวันออก ระหว่างที่วังหลวงก่อสร้างโฮ่กุ๋ยไดทำการชิงอำนาจ สถาปนาราชวงศ์ใหม่ทิ้งทังล็องเป็นอดีตราชธานี
         ราชวงศ์โฮครองราชได้เพียง 7 ปี ก็ต้องตกเป็นเมืองขึ้นของจีนอีกคร้ง ผู้คนและทรัพย์สินโดยเฉพาะหนังสือ เอกสารสำคัญ ถุกกว่าดต้อนรวบรวมไปยังราชสำนักหมิง อดีตจักพรรดิทั้งสองต้องใช้แรงงานในต่างแดนจนส้ินใจ...
              แหล่งภฺมิทัศน์จ่างอาน Trang An Landscape Complex อยู่ใกล้ๆ กับเมืองนิญบิ่ญ จังหวัดนิญบิ่ญ บริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง รายล้อมไปด้วยภูมิทัศน์อันงดงานของยอดเขาหินปูน รวมไปถึงแม่น้ำหลายสายที่ไหลลัดเลาะไปมา และบางส่วนก็จมอยู่ใต้น้ำนอกจากนี้จ่างอาน ยังงถูกล้อมรอบด้วยผาสูงชัน จึงทำให้สถานที่แห่งนี้งดงามน่าเที่ยวเป็นอย่างมาก
 จากความสวยงามทางด้านภูมิทัศน์แล้วนั้น จ่างอานยังมีร่องรอยทางโบราณคดีที่เผยให้เก็นการตั้งถินฐานของมนุษย์สมัยโบราณ ทำให้สถานที่แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ การชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงามในจ่างอานนั้น คือ การล่องเรือเล็กประมาณลำละ 4-5 คน เพื่อเข้าไปเยี่ยมชมจ่างอาน เรือแจวก็จะพาเราไปเยี่ยมชมวัด หลังจากนั้นก็จะพาเราไปลอดถ้ำ มีทั้งหมด 49 ถ้ำ ซึ่งแตละถ้ำจะมีชื่อแตกต่างกันไปจะใช้ เวลาล่องเรือไปกลับร่วมสองชั่วโมงเลยที่เดียว
            จ่างอานได้ชื่อว่าเป็นจุดหมายปลายทางท่องเทียวที่สำคัญแห่งหนึ่งในเวียดนาม และจ่างอานยังได้รับการยอย่องให้เป็น ฮาลองบก เนื่องจากมีเขาหินปูนและถ้ำคล้ายกับที่อ่าวฮาลอง จังหวัดกว่างนิงห์อีกด้วย ที่สำคัญคือระบบนิเวศ ของจ่างอานก็หลากหลายมีพันู์พืชหายากและสัตว์ป่าสงวนอาศัยอยู่ เป้นจำนวนมาก ในบริเวณเขตท่องเทียว จ่างอานยังมีโบราณสถานระดับชาติที่สวยงานแ่ห่งหนึ่ง ด้วยนั้นคือ วัดบ๋ายดิ่ง วัดที่ใหญ่และสวยที่สุดของเวียดนามนั่นเอง



                  - www.th.wikipedia.org/../รายชื่อแหล่งมรดกโลกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
                  - www.vntoyou.com/phongya.html
                  - www.manager.co.th/../ไปดู..พระราชวังเก่าทังลอง มรดกโลก1,000 ปี
                  - www.thaigoodview.com/../ป้อมปราการของราชวงศ์โฮ เวียดนาม
                  - travel.thaiza.com/../แหล่งภูมิทัศน์จ่างอาน Trang An สวรรค์บนดินที่ต้องมาเยือน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chanson de Roland

City of God (St. Augustine)

Republik Indonesia I (The Kingdom)